จากบทความเก่าของผมหัวข้อ “จัดฟันตายแล้ว”ทั้ง 2 ตอน (ตอนที่ 1 อ่านได้ที่นี่ ) (ตอนที่ 2 อ่านได้ที่นี่) ผมก็ได้แลกเปลี่ยนกับหมอๆหลายท่านที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย จริงๆแล้ว จัดฟันตายแล้ว หรือเปล่า ? ท่านที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับบทความ มองว่า Demand ของจัดฟัน (คนไข้ใหม่) นั้นเยอะมากมาย เพราะมีเด็กเกิดใหม่ทุกปี ปีละหลายแสน ซึ่งมากกว่า Supply ของหมอที่มีอยู่มาก จัดฟันจึงไม่น่าจะตายง่ายๆ ซึ่งในแง่มุมนี้ผมเห็นด้วย ลองดูตาราง
กลยุทธ์การตลาด
กลยุทธ์การตลาดสำหรับคลินิกทันตกรรม
7 สิ่งที่ทำให้คุณไม่มีคนไข้
Posted onการที่คนไข้จะ “ไม่มาใช้บริการของคลินิกเรา” มันมีปัจจัยได้ร้อยแปดพันอย่างแล้วแต่จะคิด ในแง่ของอาชีพบริการ ส่วนใหญ่จะเป็นการบริการที่ “ไม่ถึง” หรือไม่ครบถ้วน ผมได้ยกตัวอย่าง 7 กรณีที่เป็นปัญหา อันจะทำให้คนไข้ไม่มาคลินิก ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆใกล้ตัว และมีความสำคัญชนิดนึกไม่ถึงถ้าไม่คิดลึกๆ หัวข้อที่จะนำเสนอได้แก่ หมอฟันที่ไร้ตัวตน คลินิกโดนเปรียบเทียบ คำด่า ปากต่อปาก คนไข้หลงทาง ไม่ได้ลงจากรถ ที่นั่งไม่พอ ไม่จริงอย่างที่หวัง หลังจากท่านอ่านครบ 7 กรณีเหล่านี้ ผมจะมีข้อสรุปที่น่าสนใจปิดท้ายให้ 1 หมอฟันที่ไร้ตัวตน ยุคนี้ คงไม่มีใครปฎิเสธว่าการ
บทศึกษาการตลาดของหมอเคน “พี่ไม่ได้ตั้งใจดัง”
Posted onกลางปี 59 นี้หมอฟันที่ปรากฎในหน้าโซเชี่ยวมากๆ นอกจากคุณหมอดลฤดี อาจจะเป็นหมอฟันอีกท่านที่ภูเก็ตที่มีภาพการทำฟันในชุดที่แปลกไปจากหมอฟันที่เราเคยเห็น “หมอเคน” (หมอเคนไม่ได้หนีทุนนะครับ..) ภาพ คอลั่มจากสำนักข่าว จากข้อมูลตามสื่อที่สัมภาษณ์ต่างๆ ที่มาที่ไปคือหมอเคนรับราชการอยู่ที่ภูเก็ต มีปริญญาโททางด้านทันตกรรมสำหรับเด็ก หมอเคนริเริ่มคลินิกทันตกรรมของตนเองช่วงต้นปี 59 ซึ่งถ้านับเวลาจนถึงบัดนี้ (สิงหาคม 2559) ในเชิงธุรกิจทั่วไปย่อมนับว่า”ใหม่กิ๊ก” บุคลิกส่วนตัวหมอเคนจะเป็นคนชอบแต่งตัว มีสไลล์ ในการทำฟันแก่เด็กๆก็จะมี”ลูกเล่น” เพื่อหลอกล่อให้เด็กร่วมมือในการทำฟัน ส่วนหนึ่งที่เราเห็นชัดและโดดเด่นคือการแต่งตัวด้วยชุด Mascot แบบต่างๆระหว่างทำฟัน ด้วย Concept การทำฟันเด็กที่เน้นการลดความกลัวของเด็ก และเพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการทำฟัน