Jab Jab Jab Right Hook
แย็บ บ่อยๆ สอยด้วยฮุคขวา เคล็ดลับโซเชียลมีเดีย
ถอดหนังสือการตลาดเหลือ 4 นาที (ตอนที่ 1)
โซเชียลมีเดีย ประกอบด้วยหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Twitter, Instagram ฯลฯ แม้ว่าแต่ละแพลตฟอร์มอาจทำหน้าที่เหลื่อมล้ำกันบ้าง แต่ทุกแพลตฟอร์มจะมีภาษาวัฒนธรรม และสไตล์ของตัวเอง
บางแพลตฟอร์มอาจเหมาะกับข้อความยาวๆขณะที่บางแพลตฟอร์มเหมาะกับรูปสวยมีสไตล์
ข้อแตกต่างเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องเล็ก การที่เราเอาคอนเทนต์เดิม ที่สร้างไว้สาหรับแพลตฟอร์ม หนึ่งไปใช้ในอีกแพลตฟอร์มหนึ่งมันก็เท่ากับการตลาดแบบที่ล้มเหลวในอดีตเหมือนกับโฆษณาแบบดั้งเดิม ที่จะเอาสื่อโฆษณาที่ใช้ในวิทยุไปใช้กับโฆษณาโทรทัศน์นั้นไม่เหมาะ
หนังสือเล่มนี้จะอธิบายหลักการที่จะทำให้คุณเขียนคอนเทนต์ที่ดีและถูกบริบทของแตล่ะแพลตฟอร์ม ให้ตรงกับความสนใจและเกิดการแชร์ต่อได้ และเกิดการพูดถึงแบบปากต่อปาก (ซึ่งเป็นเรื่องสาคัญมากกก)
Content is King but Context is God
ถ้าคุณมีคอนเทนต์ดีๆแต่ไม่สนใจบริบทในแพลตฟอร์มนั้นๆ คอนเทนต์ดีๆก็พังไม่เป็นท่าได้
ซึ่งคอนเทนต์จะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ มันต้องมีลักษณะเนทีฟ (Native) คือ ไม่แปลกแยกไปจากแพลตฟอร์ม (คอนเทนต์ดีๆที่ถูกบริบท) #คำถามคือ แล้วอะไรคือการสร้างเนทีฟคอนเทนต์ที่เจ๋ง
คำถามนี้ตอบยาก แต่บอกได้เพียงว่า เนทีฟคอนเทนต์จะกระทบอารมณ์คุณอย่างจัง จนอดไม่ได้ที่จะแชร์ให้คนอื่นรู้ด้วย อาจเป็นคำคม รูปภาพ เพลง หรือวีดีโอ หรืออะไรก็ได้
ที่น่าสังเกตุคือมันไม่มีสูตรเฉพาะในการสร้างเนทีฟคอนเทนต์ที่ทำให้คนรู้สึกคลิก (เพราะย่อมมีปัจจัยเกี่ยวโยงมากมาย) และคุณจะไม่มีวันทำได้ถ้าไม่เข้าใจลึกซึ้งว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้กลุ่มผู้บริโภคของคุณรู้สึกคลิกและคนเหล่านั้นค้นหาอะไรเวลาเข้ามาใช้โซเชียลมีเดีย
การตลาดก็เปรียบเสมือนการชกมวย
หมัดแย็บคือคอนเทนต์เนื้อหาเบาๆที่มีประโยชน์ต่อลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้หัวเราะ ได้ใช้ความคิด หรือหลบพักจากการทำงานหนักมาทั้งวัน
หมัดฮุคขวาเป็นการกระทำที่กระตุ้นให้เกิดการกระทำที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจคุณ เช่น ก่อให้เกิดการซื้อขาย เป็นต้น
****ผมจะขอยกตัวอย่างหมัดแย็บและหมัดฮุคในธุรกิจทันตกรรมนะครับ
เริ่มจาก หมัดแย็บ คลินิกได้สร้างบทความที่ 1 ชื่อหัวข้อ “อาหาร 10 ชนิด ที่ทำให้ฟันเหลือง” บทความถัดมา ชื่อ “5 วิธีทำให้ฟันขาวใสจั๋ว” ซึ่ง 1 ใน 5 วิธีนี้มีการฟอกสีฟันรวมอยู่ด้วย
แน่นอนคนที่มาอ่านคือคนที่สนใจในเรื่องนี้ หากมีการไลค์ แชร์ หรือคอมเมนต์ Facebook จะจดจำว่าคนกลุ่มนั้นสนใจเพจนี้ เมื่อปล่อยหมัดฮุค “ฟอกสีฟันรุ่นใหม่ ราคาพิเศษ” คนกลุ่มนี้จะเห็นเป็นกลุ่มแรกและหากเค้าสนใจไม่ว่าจะจากตัวเขาเองหรือจากหมัดแย็บก่อนหน้านี้ คุณจะมีเปอร์เซนได้คนกลุ่มนี้มาเป็นลูกค้าของคลินิกสูงขึ้น เป็นต้น
นักมวยใช้เวลามากมายวิเคราะห์เทคนิคของตน และใช้เวลาเท่ากันวิเคราะห์เทคนิคคู่ต่อสู้ ดังนั้นเราจึงต้องเฝ้าดูพฤติกรรมของลูกค้าเสมอ และปล่อยหมัดที่แม่นยำและถูกจังหวะออกไป การตลาดโซเชียลมีเดียที่ได้ผลต้องอาศัยการแย็บหลายๆครั้งก่อนจะปล่อยหมัดฮุคขวาเพื่อปิดการขาย หมัดแย็บเป็นหมัดที่ยิงเนทีฟคอนเทนต์ซึ่งผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกับสิ่งที่แพลตฟอร์มมอบให้ผู้ใช้บริการ โดยการเล่าเรื่องที่ทำให้ผู้บริโภคมีอารมณ์ร่วม ผู้บริโภคมักจะชื่นชอบเวลาคุณแย็บ เพราะคุณไม่ได้ขายอะไร ไม่ได้ขอให้ผู้บริโภคทำอะไรทั้งสิ้น คุณเพียงแชร์เรื่องราวดีๆ ไม่ว่าจะเรื่องสนุก ตลก ตื่นเต้น อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ขายของ และการที่คุณมีเนทีฟคอนเทนต์ดีๆจะทำให้ผู้บริโภคแชร์คอนเทนต์นั้ต่อไปให้เพื่อน ซึ่งจะทำให้เพื่อนจดจำแบรนด์ของคุณและส่งผลให้เพื่อนมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าคุณเมื่อคุณปล่อยหมัดฮุคขวา
ปล.คุณหมอทุกท่านหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่การตลาดของคลินิก เคยปล่อยหมัดแย็บกันบ้างมั้ยครับหรือปล่อยแต่หมัดฮุคขวายิงโปรฯกระหน่ำลูกเดียว
โซเชียลมีเดียที่หนังสือเล่มนี้นำมาวิเคราะห์มีหลายแพลตฟอร์มด้วยกัน ซึ่งผมจะยกมาเพียง 3 แพลตฟอร์มคือ Facebook, Instagram และ Twitter ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยนิยมใช้กันมาก โดยผมจะขอพูดถึง Facebook เป็นเรื่องสุดท้ายเพราะผมอยากเน้นเป็นหัวข้อสำคัญ เนื่องจากคนไทยใช้เป็นอันดับต้นๆของโลกมันจึงเป็นชุมชนที่เหมาะมากๆสำหรับเราที่จะลงไปเล่นการตลาดในนั้น งั้นเรามาเริ่มที่แพลตฟอร์มแรกกันเลยดีกว่าครับ
เป็นโซเชียลมีเดียที่เน้นรูปภาพ แต่ไม่สามารถฝังไฮเปอร์ลิงค์ไว้ในรูปได้ที่เมื่อคลิกที่รูปก็จะพาไปที่เพจของคุณเหมือน Pinterest (Pinterest เป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าสนใจนะครับ เน้นรูปเหมือนกันแต่จะเต็มไปด้วยไอเดียดีๆและสร้างสรรค์มากมาย)
ข้อควรรู้ในการสร้างคอนเทนต์ Instagram ให้ได้ผล
- ทำให้เป็น “Instagram” : คนชอบ Instagram เพราะคุณภาพของคอนเทนต์ที่หาได้เฉพาะในแพลตฟอร์มนี้เท่านั้น ที่ต้องมีความงามเชิงศิลปะไม่ใช่เชิงพาณิชน์ เพราะคนเข้ามาไม่ได้เพื่อดูโฆษณาหรือรูปธรรมดาทั่วไป ลองสังเกต คุณจะพบว่ารูปธรรมดาๆหรือรูปที่มีแต่ข้อความที่โพสน์กันบ่อยใน Facbook จะแทบไม่มีให้เห็นใน Instagram เลย
- เข้าถึงคนรุ่น Instagram : แฟลตฟอร์มนี้จะเปิดประตูไปสู้ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียรุ่นต่อไป พวกเด็กๆจะใช้ Instagram แต่พ่อแม่จะยังคงใช้แค่ Facebook ต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ที่สร้างก็ต้องเหมาะกับวัยผู้ใช้บริการด้วย ลองสังเกต รูปใน Instagram จะเจ๋งกว่ารูปใน Facebook เยอะ
- เล่นสนุกกันแฮชแท็ก : แฮชแท็กสำคัญมากใน Instagram บางทีอาจจะสำคัญกว่าใน Twitter เสียอีก จะใช้มากแค่ไหนก็ได้ ซึ่งเมื่อคลิกที่แฮชแท็กนั้นคุณก็จะมาอยู่ที่เพจซึ่งมีรูปอื่นๆอีกมากมายที่ติดแฮชแท็กเดียวกัน ดังนั้นแฮชแท็กจึงเป็นเสมือนเป็นประตูที่คนจะผ่านเข้ามาเพื่อรู้จักแบรนด์ของคุณ ลองสังเกต ในเฟสบุ๊คใครติดแฮชแท็กถึง10จะดูค่อนข้างประหลาด แต่ใน Instagram ติดแฮชแท็กเกือบร้อยก็ยังดูธรรมดา
ถามคำถามต่อไปนี้ทุกครั้งเมื่อคิดจะโพสต์คอนเทนต์ใน Instagram
– รูปที่ใช้ดูอินดี้และอาร์ตพอสำหรับกลุ่มผู้ใช้ Instagram หรือยัง
– ใส่แฮชแท็กอธิบายไว้พอหรือยัง
– เรื่องที่เล่าถูกใจคนรุ่นใหม่หรือไม่
– วีดีโอสั้นกระชับพอที่จะเล่าเรื่องใน Instagram หรือไม่
Twitter เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่คอนเทนต์สำคัญน้อยกว่าบริบท เพราะจุดเด่นของมันคือความเรียบง่ายด้วยข้อความ 2-3 บรรทัด ลิงค์ และแฮชแท็ก มันเหมาะสำหรับการอัพเดทสถานะแบรนด์ของคุณด้วยข้อความสั้นๆ แต่ข้อความเหล่านี้จะรันกันแบบรีลไทม์เป็นข้อความที่ถาโถมขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ได้คัดกรองอย่างเข้มงวดเหมือน Facebook ดังนั้นคุณจะเห็นแทบทุกข้อความที่เกิดขึ้นใน Twitter
ตอนที่ 2 ผมจะเล่าเน้นๆเกี่ยวกับ Facebook ล้วนๆ รอติดตามชมกันได้เร็วๆนี้นะครับ
“ตราบใดที่คุณยังไม่เก่ง จงแย็บบ่อยๆแล้วตามด้วยฮุคเน้นๆ ให้เหมือน Floyd Mayweather Jr.
แต่เมื่อใดที่คุณเก่งแล้ว ก็จงรัวหมัดฮุคที่ทรงพลังให้เหมือนกับ Mike Tyson”
หมอบอล.
ถอดหนังสือการตลาดเหลือ 4 นาที (ตอนที่ 1 )
0 Comments