Jab Jab Jab Right Hook ถอดหนังสือการตลาดเหลือ 4 นาที (ตอนที่ 2 )

Posted on

Jab Jab Jab, Right Hook แย็บบ่อยๆ สอยด้วยฮุคขวา

เคล็ดลับโซเชียลมีเดีย  ตอนที่  2

        มาถึงตอนที่  2  ที่ผมคิดว่าทุกท่านคงอยากอ่านมากกว่า ตอนที่ 1 แน่นอน  เราจะมาพูดถึง Facebook กันล้วนๆเลยนะครับ  (ท่านใดยังไม่อ่านตอนที่ 1 ผมแนะนำว่าให้อ่านก่อนนะครับ  เพราะศัพท์บางคำจะมาจาก ตอนที่ 1 )

        Facebook

การตลาดสำหรับคลินิกทันตกรรม

        ทุกท่านต้องทราบก่อนนะครับว่าสิ่งที่ Facebook ให้ความสำคัญสูงสุดคือ  ทำให้แพลตฟอร์มของเค้ามีความสำคัญต่อผู้บริโภคไม่ใช่นักการตลาดหรือธุรกิจของคุณ (สังเกตได้จากการลดการมองเห็นเพจลงต่ำกว่า 4%  ซึ่งหมอมดได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว)  

        ถ้าให้ความสำคัญกับธุรกิจมากกว่าแล้วคนทั่วไปจะมาเล่นทำไม ถูกมั้ยครับ

        Facebook แคร์ว่าคนสนใจคอนเทนต์ที่พวกเขาเห็นหรือไม่ มีคนแชร์ คอมเมนต์หรือไม่  นั่นคือสาเหตุที่ทำไมต้องสร้างคอนเทนต์คุณภาพที่คนอยากอ่านและอยากมีส่วนร่วมอยู่เสมอ  เพราะโอกาสที่คนเหล่านั้นจะเห็นแบรนด์ของคุณใน Facebook ในครั้งต่อๆไปขึ้นอยู่กับระดับความผูกพันที่มีต่อเพจ (Engagement ที่เกิดจากการไลค์ แชร์ หรือคอมเมนต์ โพสต์ของเพจคุณ)  ซึ่งในแพลตฟอร์ม Facebook การตอบสนองของผู้ใช้บริการที่มีต่อหมัดแย็บคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

        มันไม่ผิดเลยถ้าจะต้องใช้เงินบ้างใน Facebook (ที่เราเรียกว่าบูสโพส) แต่ต้องเป็นการใช้เงินอย่างชาญฉลาด  เช่น  สร้างคอนเทนต์ขึ้นมา 2 ชิ้นที่ไม่เหมือนกัน  ยิงไปยังกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน (เพื่อต้องการทราบว่ากลุ่มเป้าหมายนี้ชอบคอนเทนต์ลักษณะใด)  หรือสร้างขึ้นมา 1 ชิ้น  แต่ยิงไปคนละกลุ่มเป้าหมาย (เพื่อต้องการทราบว่าคอนเทนต์ลักษณะนี้ กลุ่มเป้าหมายใดที่ชอบ)  แล้วเราก็มารอดูผลตอบรับว่าเป็นอย่างไร  ถ้าชิ้นหนึ่งผู้บริโภคตอบรับดีมีส่วนร่วม Facebook จะแสดงคอนเทนต์นั้นในนิวฟีดให้คนเห็นมากขึ้น  ซึ่งทำให้คอนเทนต์นั้นปรากฏซ้ำๆให้กลุ่มผู้ชมจำนวนมากขึ้นได้เห็น  โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม  ส่วนอีกอันที่ให้ผลต่ำกว่าก็จงหยุดยิง  แล้วนำไปวิคราะห์ถึงเหตุผลต่างๆว่าทำไมคอนเทนต์ชิ้นหนึ่งถึงดีกว่าอีกชิ้น  ซึ่งการลงทุนโฆษณาในเฟสบุ๊คไม่ใช่การลงทุนที่สิ้นเปลืองเลย อันที่จริงแล้วมันกลับคุ้มค่ากว่าการลงสื่อโฆษณาแบบดั้งเดิมเสียอีก  เพราะคุณมั่นใจได้ว่าคนที่เห็นคอนเทนต์ที่คุณยิงโฆษณาคือกลุ่มเป้าหมายที่คุณระบุไว้  และหากต้องเสียเงินไป 10 หรือ 100 บาทต่อ 1 ไลค์หรือคอมเมนต์มันก็ยิ่งคุ้มค่า  เพราะบรรดากลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้มจะแชร์คอนเทนต์ของคุณต่อให้ฟรีๆ  และอาจแชร์มากกว่าหนึ่งครั้ง หรือเพื่อนของเพื่อนมาแชร์ต่ออีกก็ได้  ถ้าคุณสามารถมอบคอนเทนต์ที่พวกเขาต้องการ

         การโฆษณาโพสต์  Facebook จะคำนวณมูลค่าแรกเริ่ม (Initial value) ของโพสต์โฆษณานั้น  โดยคำนึงถึงคู่แข่งที่คุณต้องเผชิญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย  และจำนวนเงินที่คู่แข่งนั้นยินดีจ่าย  ถ้าโฆษณาของคุณดีจริง มีคนไลค์ แชร์ หรือคอมเมนต์มากกว่าคู่แข่ง  Facebook จะตัดสินว่าโฆษณาของคุณดีกว่าและจะให้คุณซื้อจำนวนครั้งที่มีคนเห็นโฆษณานั้นในราคาถูกกว่าคู่แข่ง  และยิ่งคนมีส่วนร่วมมากขึ้น  ระบบก็จะยิ่งแสดงโพสต์นั้นให้คนเห็นมากขึ้นไปอีกและต้นทุนแรกเริ่มก็จะยิ่งลดลง  แต่เมื่อคนเลิกสนใจไม่นานโพสต์นั้นก็จะจางหายไป  (นอกเสียจากเรายังคงจ่ายเงินเพิ่มสำหรับค่าโฆษณานั้นต่อไป)  

        แต่จะทำไปทำไมในเมื่อต้นทุนมันจะสูงขึ้นในขณะที่ผลลัพธ์เท่าเดิมหรือน้อยลง  ? ปัจจุบัน Facebook ปรับอัลกอลิทึมหลายครั้งและนั่นส่งผลให้การแสดงผลของแฟนเพจลดต่ำลงมากๆ  แต่ไม่ว่า Facebook จะเปลี่ยนแปลงหรือทำอะไรก็ตาม  คอนเทนต์คือสิ่งที่สำคัญที่สุด  เพราะ Facebook คือแพลตฟอร์มสำหรับการแย็บไม่ใช่แพลตฟอร์มสำหรับหมัดฮุคขวา

การตลาดสำหรับคลินิกทันตกรรม

       ถามคำถามต่อไปนี้ทุกครั้ง  เมื่อคิดจะเขียนคอนเทนต์ในเฟสบุ๊ค

ข้อความยาวเกินไปหรือปล่าว  อ่านแล้วทำให้คิด  สนุก  หรือน่าแปลกใจหรือไม่

เพราะด้วยเนเจอร์ของคนไทย (และผมก็คิดว่าชาติอื่นก็คงคล้ายกัน) อ่านหนังสือเฉลี่ยไม่กี่บรรทัด  การจะให้ลูกค้าตามอ่านจนจบนั้นยากมาก  ข้อความควรสั้นกระชับแต่ได้ใจความ

รูปที่ใช้ในโพสต์สวย  คุณภาพดีหรือไม่

หยุดใช้โปรแกรม paint  หัดใช้ Photoshop หรือ Illustrator ได้แล้วนะครับ  หรือรูปถ่ายก็ควรถ่ายให้สวย  หยุดใช้มือถือรุ่นเก่าๆความละเอียดต่ำๆ ถ่ายแล้วลงเลย  ไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ  มันไม่เท่เอาซะเลย

เห็นโลโก้(ของแบรนด์ในรูป) ชัดไหม

ควรแปะไว้ซักมุมที่ไม่กีดขวางรูปหรือข้อความที่ต้องการสื่อสาร  เพื่อให้เกิดการจดจำโลโก้ของแบรนด์

วีดีโอความยาวมากเกินไปหรือไม่

วีดีโอที่ยาวเกินไปคนดูมักจะดูไม่จบ  ยิ่งหากสิ่งที่ต้องการสื่ออยู่ท้ายวีดีโออาจจะทำให้เกิดความล้มเหลวในคอนเทนต์นั้นได้  วิดีโอควรสั้นกระชับและมีเนื้อหาน่าสนใจเพราะหากวีดีโอน่าเบื่อ ถึงมันจะสั้นคนดูก็จะปิดก่อนที่มันจะจบเสียอีก

สิ่งที่ต้องการให้ลูกค้าทำอยู่ถูกที่ถูกตำแหน่งหรือไม่

ถ้าคอนเทนต์เริ่มต้นมาก็ขอให้คนอ่านทำนั่นทำนี่  คุณคิดว่าจะมีใครอ่านต่อไหมครับ  แต่คอนเทนต์ที่น่าสนใจที่มาพร้อมกับการขอให้ทำที่เนียนไปด้วยกันมักจะทำให้ผู้อ่านทำตามโดยไม่รู้ตัว

คอนเทนต์น่าสนใจจริงหรือไม่  จะมีใครสนใจบ้างหรือปล่าว

อย่าคิดว่ามันน่าสนใจเพราะตัวเราคิดว่ามันน่าสนใจ  ให้ลองคิดว่าถ้าเราเป็นคนอื่นเราจะอ่านหรือจะแชร์ต่อคอนเทนต์นั้นมั้ย  ผมแนะนำว่าควรมีที่ปรึกษาที่ไม่ใช่ทันตแพทย์และกล้าวิจารณ์เรา  ลองทำคอนเทนต์ขึ้นมาให้คนอื่นวิจารณ์ก่อน  ก่อนที่จะเผยแพร่มันออกไป  เพราะสำหรับเรามันอาจเจ๋งแต่สำหรับอีก100คนมันอาจไม่เจ๋งเลยก็ได้

เราเรียกร้องจากผู้อ่านคอนเทนต์นี้มากเกินไปหรือไม่

เช่น  ถ้าชอบก็กดไลค์  กดแชร์  คอมเมนต์ว่า”ชอบจัง”  ด้วยนะคะ  อย่าขอมากเกินไปเพราะแทนที่ผู้อ่านชอบแล้วเค้าจะแชร์เองกลับเป็นไม่แชร์เพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังพยายามทำอะไรมากขึ้นจากการร้องขอของเรา  ยิ่งถ้าเป็นโพสต์ฮุคขวาขายของด้วยแล้วการเรียกร้องจากผู้อ่านมากไปย่อมไม่ให้ผลดีเช่นกัน

โซเชียลมีเดียอาจเปลี่ยนแปลงอย่างผันผวน  แต่ถ้าคุณไม่ย่อท้อและตื่นตัวอยู่เสมอเพื่อค้นหาวิธีการนำการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์  คุณจะไปไกลกว่าคนอื่นและได้รับของขวัญจากความพยายามนั้น สู้ๆครับ 

ปล.เล่มต่อไปเรามาถอดหนังสือ ชื่อ พฤติกรรมพยากรณ์ กันนะครับ เล่มนี้เป็นหนังสือด้านพฤติกรรมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ที่โด่งดังมากที่สุดเล่มหนึ่ง ไว้พบกันครับ

 

 

  • Share

0 Comments

Leave a comment

Your email address will not be published.