กลางปี 59 นี้หมอฟันที่ปรากฎในหน้าโซเชี่ยวมากๆ นอกจากคุณหมอดลฤดี อาจจะเป็นหมอฟันอีกท่านที่ภูเก็ตที่มีภาพการทำฟันในชุดที่แปลกไปจากหมอฟันที่เราเคยเห็น “หมอเคน”
(หมอเคนไม่ได้หนีทุนนะครับ..)
ภาพ คอลั่มจากสำนักข่าว
จากข้อมูลตามสื่อที่สัมภาษณ์ต่างๆ ที่มาที่ไปคือหมอเคนรับราชการอยู่ที่ภูเก็ต มีปริญญาโททางด้านทันตกรรมสำหรับเด็ก หมอเคนริเริ่มคลินิกทันตกรรมของตนเองช่วงต้นปี 59 ซึ่งถ้านับเวลาจนถึงบัดนี้ (สิงหาคม 2559) ในเชิงธุรกิจทั่วไปย่อมนับว่า”ใหม่กิ๊ก”
บุคลิกส่วนตัวหมอเคนจะเป็นคนชอบแต่งตัว มีสไลล์ ในการทำฟันแก่เด็กๆก็จะมี”ลูกเล่น” เพื่อหลอกล่อให้เด็กร่วมมือในการทำฟัน ส่วนหนึ่งที่เราเห็นชัดและโดดเด่นคือการแต่งตัวด้วยชุด Mascot แบบต่างๆระหว่างทำฟัน ด้วย Concept การทำฟันเด็กที่เน้นการลดความกลัวของเด็ก และเพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการทำฟัน หมอเคนก็จะเน้นแต่งตัวด้วยชุด Mascot แบบต่างๆดังภาพในทุกๆเคส
แต่งชุด Mascot ทั้งทีม ล่าสุดทั้งผู้ปกครองและเด็กก็ใส่ด้วย
ยุคนี้ ความประทับใจก็ต้องเก็บไว้ด้วย Smartphone การเก็บภาพคุณหมอใส่ชุด Mascot และทำฟันกับลูกเขาอย่างมีความสุขก็มีบันทึกมากขึ้นเรื่อยๆจากผู้ปกครอง และส่วนหนึ่งที่หมอเคนก็ตั้งใจเก็บภาพเหล่านี้ไว้ และโพสไว้ในเพจของคลินิก เป็น portfolio ที่แปลกตาและใครเห็นก็ล้วนตื่นเต้นและแปลกตาไปจากเพจของคลินิกทันตกรรมทั่วไปที่เน้นใส่วิชาการ ความรู้สุขภาพ ภาพทำฟันก่อนและหลัง testimonial จากลูกค้า และโปรโมชั่น
การแชร์ในเฟสบุ้คก็เกิดขึ้นตามมาเรื่อยๆ และก็ไปเข้าตาสำนักข่าวหลายแห่ง ทีนี้และเหมือนไฟลามทุ่ง มีทั้งข่าวในเวปไซด์ที่แชร์กัน รายการทีวีขอไปสัมภาษณ์ ขอไปบันทึกเทปที่คลินิกวุ่นกันไปหมด
ผลที่เกิดขึ้นคือ หมอเคน กลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศอย่างรวดเร็ว (จีน ฮ่องกง และไต้หวันก็มีแชร์) ปรากฎการณ์แบบนี้ถือเป็นปรากฎการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับวงการทันตกรรม (อีกคนคือหมอดลฤดี แต่อยู่บน story อีกแบบ) หมอคนเดียว คลินิกแห่งเดียว แต่ดังแบบไม่ได้ตั้งใจ รายการทีวีและสำนักข่าวขอมาทำข่าวโดยที่หมอเคนไม่ได้ร้องขอแต่ใดเลย ไม่เสียเงินสักกะบาทด้วยซ้ำ
แปลกดีไหม ที่มีคลินิกทันตกรรม ที่มีชื่อเสียงมากกว่า เก่าแก่กว่า มีคุณวุฒิสูงทางวิชาการที่โดดเด่นกว่า และเทคโนโลยีที่เหนือกว่ามากมายหลายแห่งในประเทศไทย แต่ไม่เคยมีแห่งใดสร้างปรากฎการณ์เป็นที่รู้จักของคนในประเทศ (ทุกเพศทุกวัยด้วย) ในช่วงเวลาสั้นๆขนาดนี้
บทวิเคราะห์
- สังเกตว่าผู้คนจดจำ “หมอเคน” แต่ถ้าถามว่าหมอเคนอยู่คลินิกชื่ออะไร…..บางทีก็ไม่ทราบ เพราะ Branding และการรับรู้ที่เกิดเป็น Personal Branding อนาคตไม่ว่าหมอเคนจะไปประจำที่คลินิกแห่งใดก็ย่อมไม่แปลกที่คนจะตามหา “หมอเคน” โดยไม่สนใจว่า “สถานที่” ที่หมอเคนทำงาน แล้ว Branding ของคลินิกทันตกรรมละจะเกิดไหม ? สิ่งนี้อาจต้องใช้เวลาและการทำการวางแผนทางการตลาดอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ย่อมไม่สามารถเกิดขึ้นง่ายๆ
- ธรรมชาติของคนไข้ และผู้ปกครองที่มาทำฟันทุกคนจะพกความทุกข์มาด้วยมากมาย ไม่ว่าจะกลัวหมอ กลัวเจ็บ กลัวแพง กลัวหมอดุ กลัวสารพัด การนำเสนอของหมอเคน ถ้าสังเกตดีๆจะนำเสนอ “ความสุขของคนไข้ ” และ “ความเป็นกันเอง” ของทันตแพทย์และทีมบริการ
การนำเสนอ “ความสุข” โดยใช้ภาพจริงๆ ทำให้ผู้ที่เห็นภาพเข้าถึงได้มากกว่า
ภาพประเภทจัดฉากหรือจ้างคนมาเพื่อมาถ่ายภาพใช้ประชาสัมพันธ์
- โดยทั่วไปผลลัพธ์ของการ “ทำฟัน” ทันตแพทย์ส่งมอบให้คือ “ทำฟัน” เช่น หินปูนเกลี้ยงเกลา ฟันขาวขึ้น ฟันที่ปวดโดนถอนไป เป็นต้น แต่หมอเคนส่งมอบ “ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ” เพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งความสนุกกับการพบคุณหมอในชุดสุดเก๋ ความสบายใจของพ่อแม่ จนต้องบันทึกภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำ ทั้งหมดนี้คือ Value ที่เหนือกว่า”การทำฟัน” นั่นเอง
- การจะทำให้เกิดการรับรู้ทั้งประเทศในยุคก่อนมีวิธีเดียวคือต้อง “ออกทีวี” ให้ได้เท่านั้น แต่ยุคนี้การ Viral ของสื่อ Social Media สามารถสร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้คนได้เหนือกว่าสื่อใดๆแบบฟรีๆแบบไม่ได้ตั้งใจ
- Concept ของคุณหมอ เป็นของจริงที่ทำจริงๆ และทำอย่างสม่ำเสมอไม่หยุด ไม่ใช่ลักษณะมาสร้างความแปลกใหม่แบบฉาบฉวยแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเพื่อโปรโมตคลินิกให้คนรู้จักแล้วเลิกทำ ภาพและโพสต่างๆที่เกิดการแชร์นั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติจริงๆ คือแชร์เพราะน่าสนใจ น่าติดตาม และอยากบอกต่อ ไม่ใช่แชร์เพราะจะเอาสิทธิ์ไปแลกทอง แลก Gift Vocher หรือส่วนลดในการทำฟัน
- ด้วย Value ที่เริ่มก่อตัวขึ้น คลินิกจึงต้องสร้างประสบการณ์ให้เหนือกว่าความคาดหวังของผู้มารับบริการให้ได้อย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้จะเป็น Core Value ต่อไปในอนาคต ดังประโยคที่ว่า “ทำให้ดีนั้นไม่ยากเท่ากับการทำให้สม่ำเสมอและต่อเนื่อง”
- คลินิกทันตกรรมยุคนี้สามารถสร้างชื่อเสียงและฐานคนไข้ได้เร็วกว่าทุกยุคสมัย อัตราเร่งจึงดีกว่าในยุคก่อนที่ต้องรอให้ค่อยเป็นค่อยไป เคสของหมอเคนจึงเป็นกรณีศึกษาตัวอย่างของการมีชื่อเสียงในระยะเวลาข้ามคืน แต่ในระยะยาวจะดำเนินอย่างไรก็คงต้องแล้วแต่ฝีมือการบริการของ CEO ของคลินิกหรือ “หมอเคน” นั่นเอง
0 Comments