ปัญหาหลักของทุกคลินิกทันตกรรมในการบริหารจัดการคลินิก คือเรื่องบุคลากร
- ทำอย่างไร ให้บุคลากรสามารถทำงานตามที่องค์กร หรือ คลินิกคาดหวัง ?
- ทำอย่างไรให้เขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ?
- จะพัฒนาลูกน้องอย่างไร ?
ก่อนที่จะมองถึงปัญหา อยากให้มองในภาพของ “ตัวเอง” ในการจัดการของคลินิกก่อนนะครับ ว่า …
- คลินิก มีระบบการสอนงานลูกน้อง ที่มีประสิทธิภาพแค่ไหน ?
- ในคลินิก มี “ครู” หรือ “ต้นแบบ” สำหรับพนักงานใหม่ ให้เขาได้เรียนรู้หรือก๊อปปี้ไหม ?
- คลินิกได้วางแผน หรือ มีโปรแกรมการ “ปั้น” หรือ “สอนงาน” หรือไม่ ?
ถ้าเราไม่มีสามสิ่งนี้ บางทีเราก็ไม่สามารถไปตำหนิลูกน้องได้ถ้าเขาทำงานไม่เป็น หรือไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะคนที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่ถ้าเรามีระบบแล้วและเขายังทำไม่ได้ตามที่องค์การคาดหวัง นั่นย่อมเป็นอีกเรื่อง
สมมุติ เรารับพนักงานผู้ช่ายทันตแพทย์มาใหม่ เขาจะเรียนรู้การทำงาน กฎระเบียบ และเนื้องานที่เขาต้องรับผิดชอบได้จากใคร ?และอย่างไร ? โดยเฉพาะช่วงที่เขาเริ่มต้นฝึกและเรียนรู้งานคลินิกมีแนวทางใด ที่จะใช้เป็น Guide ให้เขาในการพัฒนาตนเองหรือไม่ ?
ผมขอแนะนำ Skill Sheet ครับ ดาวโหลดมาดูได้นะครับ —-> http://dentalbusinessblog.com/wp-content/uploads/2016/08/skill-sheet-ตย-1.pdf
นี่คือหน้าตาของ skill sheet
Skill Sheet มีประโยชน์ดังนี้
- พนักงานจะได้รับไปตั้งแต่วันแรกๆที่ทำงาน “เพื่อว่าจะได้ทราบว่าตนมีภาระและหน้าที่อะไรบ้าง” จะได้ไม่มีอาการ “ไม่รู้งาน”
- พนักงานจะค่อยๆฝึกการทำงานตาม skill sheet เช่น วันนี้ฝึกข้อ 1-5 พรุ่งนี้ อีก 5 ข้อ ไปเรื่อยๆ ค่อยๆเก็บความรู้ไปทีละก้าว
- สามารถเอาไปใช้กับพนักงานที่มีอยู่แล้ว เพื่อประเมินว่าเขารู้ไม่รู้อะไร และทำงานสมบูรณ์เพียงใด
- เมื่อครบกำหนดเวลา ( 2-4 สัปดาห์) เราจะมีการ “สอบ” โดยประเมินเป็น 4 ระดับ ได้แก่A = ปฎิบัติได้สมบูรณ์ และสม่ำเสมอB = ปฎิบัติได้สมบูรณ์ แต่ไม่สม่ำเสมอC = ปฎิบัติยังไม่สมบูรณ์X = ปฎิบัติได้สมบูรณ์ แต่ไม่ทำทั้ง 4 ข้อ สามารถประเมินตัวพนักงานได้อย่างดี อีกทั้งสามารถรู้ลึกไปถึงปัญหาและการแก้ไขด้วย ดังนี้
A = ปฎิบัติได้สมบูรณ์ และสม่ำเสมอ
แปลได้ว่า พนักงานคนนี้ทำงานได้สมบูรณ์ ทั้งความรู้ ฝีมือและความรับผิดชอบ ถือว่าโอเคมากๆ
B = ปฎิบัติได้สมบูรณ์ แต่ไม่สม่ำเสมอ
แปลได้ว่า ทำงานเป็นและมีความรู้ แต่ความรับผิดชอบอาจจะยังตกบกพร่อง ต้องย้ำการทำงานให้ได้มาตรฐานกว่านี้ และอีกมุมหนึ่งเราต้องดูในแง่ลึกถึงตัวระบบของคลินิกเองด้วยว่าการที่เขาทำได้ไม่สม่ำเสมอนั้นเป็นเพราะอะไร เช่น งานหนักเกินไปเพราะพนักงานน้อย เป็นต้น
C = ปฎิบัติยังไม่สมบูรณ์
ทางองค์กรต้องพิจารณาว่าได้ทำหน้าที่สอนงานเขาแล้วหรือยัง ? ถ้าสอนแล้วเขารู้เรื่องไหม ? คนสอนสอนไม่ดี หรือคนเรียนเขาไม่ get ไม่เข้าใจเอง การสอนประเภทพูดปากเปล่ากับที่ผู้สอนทำสไลด์สอนนั่งเรียนในห้องพร้อมมีเอกสารเรียนควบคู่ย่อมแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการที่พนักงานทำงานไม่สมบูรณ์อาจจะผิดที่องค์กรหรือคนสอนก็เป็นได้
X = ปฎิบัติได้สมบูรณ์ แต่ไม่ทำ
การทำได้แต่ไม่ทำ คือเพิกเฉยต่องาน องค์กรอาจจไม่เคยชี้แจงว่างานนั้นๆเป็นความรับผิดชอบของเขา หรือเป็นที่ตัวเขาเองที่ละทิ้งงานซึ่งเป็นเรื่องของบุคลิกและนิสัย หรือมีความขัดแย้งระหว่างพนักงานทำให้การทำงานนั้นไม่สมบูรณ์
Skill Sheet นี่จะเป็นส่วนที่ละเอียดและแยกย่อยใน Job description แต่ละคลินิกทันตกรรมสามารถร่างขึ้นเองตามที่คิดว่าเหมาะสม จะปรับเปลี่ยนเป็นแบบไหนก็ได้แล้วแต่เลย ตัวอย่างที่ให้โหลดนี้เป็นเพียงแนวทางคร่าวๆครับ
0 Comments