ถ้าคุณคิดจะมีคลินิก (หรือ ท่านที่มีไปแล้ว) ท่านจะตั้งชื่อคลินิก โดยวิธีใด ?

ระหว่าง

1.ถามพระ
2.นั่งเทียนคิดเอง
3.search google
4.ทุกข้อรวมกัน ?

ก่อนถ้ามาสู่เรื่องคลินิกทำฟัน มาดูตัวอย่างการ “ตั้งชื่อลูก” ที่อเมริกาสมัยนี้เขานิยมกันนะครับ

ทุกวันนี้ ชื่อฝรั่งจะซ้ำกันมาก(โคตรๆ) ไม่ใช่แค่ชื่อ แม้แต่ทั้งชื่อและนามสกุลยังซ้ำ เช่น

Robert
John
Martin
Willy
Henry
Billy  โอ้ย เยอะแยะ

ในยุคที่เราใช้ google ในการหาข้อมูล เราสามารถ “ตรวจ” ชื่อเหล่านั้นได้ก่อน ว่า ………….

ชื่อเหล่านั้น ซ้ำเยอะแค่ไหน

ชื่อใด ได้ทำเรื่องแย่ๆไว้เยอะ จนคนเกลียดชื่อนั้น

เป็นต้น

เพราะ ถ้าชื่อเราซ้ำกับคนอื่น โดยเฉพาะคนที่มีชื่อเสียง(ดารา นักร้อง เป็นต้น) มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ชื่อนั้นจะถูก Search เจอได้(โดยเป็นชื่อเรา)

เช่น ถ้าตั้งชื่อลูกว่า Justin คุณคิดว่ามีโอกาสจะเจอลูกคุณในอนาคตไหม ….. คงยากเพราะเจอ Justin bieber และ justin timberlake แย่งหน้าแรกๆ ของ google ไป ยิ่งถ้าตั้งชื่อแล้วนามสกุลมีตัว b หรือ t นำหน้า ยิ่งหายากไปใหญ่เพราะโดนนักร้องสองคนนี้กลืนไปหมด (ยังไม่รวมอนาคตว่าจะมี justin คนอื่นๆอีก)

เพราะฉะนั้น ยุคนี้ พ่อแม่ที่รู้ทันจะพยายามเลือกชื่อลูกให้แปลกและพิศดารกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้การ search ใน google นั้นง่ายขึ้น (เปลี่ยน o เป็น i อะไรก็ว่าไป คล้ายคนไทยที่ใช้การันต์ หรือตัวอักษรประเภท ฑ ฏ ฮ ฒ ฆ ในชื่อ)

เพราะการ search ให้เจอใน google เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในการทำ marketing คุณจะทำ marketing ในยุคนี้และอนาคตสำเร็จได้ยากมากถ้าไม่ทำให้ google รู้จัก ถ้าชื่อมัน unique หรือไม่มีซ้ำ คุณจะเด่นขึ้นมาทันทีและชื่อบางชื่อที่ก่อคดีไว้ …. ต้องหลีกเลี่ยงให้ห่าง ผู้ร้ายที่ทำคดีสยองขวัญ หรือ นักต้มตุ๋นหรือคนเลวทั้งหลาย คุณต้องหนีชื่อและนามสกุลให้ห่างไว้ เพราะถ้า search ไปนอกจากจะไม่เจอเรา ยังจะไปเจอแต่คนเลวคนนั้น คน search อาจนำพาให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเราได้

ใครบังเอิญเหมือนชื่อและนามสกุลคนดังประเภท ฆาตกรฆ่าหั่นศพ หรือ จอมหื่นที่ชอบเสพสุขกับสัตว์ที่ดังๆใน online รับรองชื่อของคุณจะเด่นน้อยกว่าคนกลุ่มนี้ ….. ยังไม่พอ ลูกคุณจะเกิดมาแบบมีปมด้อย เพื่อนล้อตลอดว่าเป็นไอ้คนๆนั้นทุกวันที่ไปโรงเรียน เพราะพอเพื่อในห้องดัน search เจอว่าชื่อลูกคุณมีชื่อ นามสกุลตรงกับไอ้บ้าโรคจิตชอบสิงสู่กับวัว คุณว่าลูกคนจะเป็นเหยื่อของเพื่อนร่วมห้องปากหมา 100%

กลับมาที่คลินิก

ถ้าจะเลือกสักชื่อ ถ้าคุณอยากจะ”ซ้ำ”คนอื่น อย่าไปซ้ำ “เจ้าใหญ่”

เพราะถ้าคุณไปตั้งชื่อซ้ำเขา จะเป็นร้านเกรดสอง หรือร้านก๊อปปี้ในสายตาคนไข้ที่ search ทันที (บางทีอาจจะไม่เจอด้วยซ้ำ เพราะชื่อของคุณจริงๆอาจจะกระเด็นไปหน้าหลังๆของ google)

เช่น LDC , BIDC , Dentjoy ยิ่งคลินิกใดเก่งเรื่อง online marketing แล้วคุณควรจะหนีไปตั้งชื่ออื่นที่ไม่เหมือนจะดีกว่า

มันไม่ผิดนะ ถ้าคุณชอบชื่อ Dentajoy กฎหมายก็ไม่ได้ห้ามอะไรขนาดนั้นที่จะชื่อต้องไม่ซ้ำกัน(จะมีบางกรณีที่ห้ามซ้ำ ใครอยากลงในรายละเอียดไปดูระเบียบเองนะครับ)

แต่ในการทำการตลาดคุณจะเหนื่อยในการสร้างตัวตน

มันจะเหนื่อยน้อยกว่า”มาก”ในการสร้างตัวตนใน online กับชื่อที่ไม่มีคนซ้ำ หรือ ซ้ำน้อย ถ้าจะซ้ำ ไปซ้ำกับคนที่ไม่เล่น online marketing ก็ได้ มีหลายคลินิกที่เก่าแก่ แต่ไม่เล่น online marketing เพราะฉะนั้นคุณจะสามารถไปแย่งซีนพวกเขาได้ (วิธีการนี้เราเรียก bottom line marketing)

แต่มันอาจจะเป็นการสนับสนุนเขาทางอ้อมได้ ในจุดนี้ต้องวางแผนดีๆ

ส่วนคลินิกที่ชื่อเสียงแย่ คนด่าจนติดกระทู้ดังในพันธิป หรือเป็นประเด็นว่ามีคนด่าบ่อยๆใน online ก็จงหลีกหนีชื่อนั้นซะ ไม่งั้น ถ้าขืนใช้ชื่อนั้นไป search ไปก็จะทำให้ผู้ search เข้าใจผิดได้ว่าคุณเป็นคลิกนิกนั้นที่กำลังมีปัญหา โดนด่าบ่อยๆ ไปทำฟันคลินิกที่ชื่อเสียงสะอาด (ใน google) สบายใจกว่า ใช่ปะ แหมคลินิกมีให้เลือกตั้งเยอะแยะ เพราะคนอ่าน content ในโลก online หลายคนไม่ได้ลงในละเอียดอย่างรอบคอบในการตรวจดูข้อมูล อ่านแค่ผิวๆก็แชร์ให้เพื่อนช่วยด่าเรียยร้อย

ข้อมูลในโลก online มีทั้งมั่ว ถูกและผิดปะปนกัน เราต้องหลีกหนีในส่วนนี้ เพราะเอาจริงๆคนอ่านเขาไม่สนใจจะค้นหาความจริงอะไรขนาดนั้น ถ้าเราเลือกที่จะหนีตั้งแต่ต้น ย่อมเป็นการป้องกันที่ดีกว่ามาก

ทั้งหมดเป็นความรู้จุดเล็กๆ เศษเสี่ยวของ online marketing ของธุรกิจทันตกรรมที่คุณควรพึ่งทราบ(เอาจริงๆ ผมว่ามีหลายท่านโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เก่งเรื่อง online จะทันในจุดนี้)  หวังว่าจะมีประโยชน์กับท่านที่อ่านอยู่นะครับ

ปล. ไม่ต้องไปขอชื่อขอพรจากพระเลย มันไม่ Work เท่าไหร่ในยุคนี้

นอกจากพระท่านจะไปหาชื่อให้เราจาก google อีกทีเพื่อ confirm ว่าชื่อนี้ชื่อดี ……..

Top of Form

Bottom of Form