ผมคิดว่าทุกคลินิกก็อยากจะเพิ่มยอดทั้งนั้น
อุตส่าห์ลงทุนเป็นล้าน ก็คงอยากให้คลินิกขับศักยภาพออกมาให้สูงที่สุด ใช่ไหมครับ
คุยกับเจ้าของคลินิกหลายท่าน ก็คาดหวังที่จะเพิ่มยอดทั้งนั้น ซึ่งส่วนมากก็มักจะถามผมเรื่องแนวทางการตลาดที่จะเพิ่มยอด
การที่คลินิกสามารถบริการลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้นจากเดิม ย่อมแปรผันตรงถึง
รายรับ หรือ ยอดขายที่เพิ่ม
จริงๆคำว่าการตลาดมันกว้างกว่าแค่การสร้างลูกค้าใหม่ หรือ การหายอด หลายๆท่านอาจจะให้ความหมายผิดไปหน่อย
กลับมาที่การเพิ่มยอด การมีลูกค้าเพิ่มขึ้นแน่นอนว่าน่าจะเป็นการเพิ่มรายรับโดยตรง
แต่มีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาร่วมด้วยนะครับ มีอีก 4 ปัจจัยที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้
1.อุปกรณ์การแพทย์
โดยเฉพาะ จำนวนเก้าอี้ทำฟัน (ยูนิต)
สมมุติคุณอยากมียอดเพิ่มขึ้นเดือนละ 1 ล้าน แต่จำนวนเก้าอี้ทำฟันมีเพียงสองยูนิต และไม่สามารถขยายได้อีก แถมสองยูนิตที่กล่าวมาถูกใช้งานเต็มอัตรากำลัง คือ เช้าจรดเย็น 7 วัน คุณจะเสกยอดขึ้นมาได้อย่างไรถ้าไม่เพิ่มจำนวนเก้าอี้ทำฟัน ?
ถ้าคุณไม่สามารถเพิ่มจำนวนยูนิตตามโจทย์ที่กล่าวมา ก็ย่อมยากที่จะให้บริการลูกค้ามากขึ้น หนทางเพิ่มยอดจะเหลือแค่การให้บริการที่มีค่ารักษาที่สูงขึ้น เช่น งานรากฟันเทียม หรืองานจัดฟันบางประเภท เป็นต้น หรืออีกแนวทางคือการเพิ่มค่ารักษาพยาบาล
2.ทันตแพทย์
สมมุติ คลินิกคุณมีพื้นที่เหลือเฟือ และคุณมีเงินทุนมากพอที่จะติดตั้งยูนิตทำฟันได้ 8 ยูนิต
แต่คุณมีคุณหมอร่วมงานด้วยเพียง 2 คน ก็ย่อมไม่สามารถสร้างยอดเพิ่มขึ้นได้มากมาย
เต็มที่คือให้คุณหมอคุณเล่นเก้าอี้ดนตรี โดดไปมาระหว่างยูนิตมันก็แค่เป็นการช่วยร่นเวลาในการเตรียมและเก็บยูนิต อาจะเกิดผลเสียในแง่การบริหารและภาพลักษณ์ เพราะคนไข้จะมองว่าคุณทำเร่งๆรีบๆ
แล้วทันตแพทย์ที่มาช่วยงานเขามีเวลาแค่ไหน ? บางทีอาจจะมีเวลาให้น้อยก็ได้ และยังมีปัจจัยเรื่องขีดความสามารถและความเฉพาะทางของคุณหมอ
3.ผู้ช่วยทันตแพทย์
ในยุค 4 hands dentistry หมอฟันจะไม่สามารถทำงานโดยลำพัง (ถ้าทำได้ ก็คงเสียเวลามาก) ผู้ช่วยทันตแพทย์คือคนที่จะต้องอยู่ข้างกาย ยิ่งถ้าเป็นหัตถการที่มีความละเอียดอ่อน เช่น งานผ่าตัด ผู้ช่วยทันตแพทย์จะต้องมีประสบการณ์และความเฉพาะทางด้วยเช่นกัน
ในสถานการณ์ที่คลินิกขาดผู้ช่วย บางครั้งถึงกับจำเป็นจะต้อง Cancle การนัดหมายของคนไข้เลยทีเดียว
4.การรองรับลูกค้าในด้านอื่นๆ
สมมุติคุณวางแผนอยากจะให้มีคนไข้เพิ่มขึ้น 30 คนต่อวัน มันแปลว่าคุณจะต้องดูแลลูกค้าเพิ่มขึ้น 30 ด้วยเช่นกัน
ที่จอดรถ เพียงพอไหม
ที่นั่งรอคนไข้
ห้องน้ำ
เจ้าหน้าที่ บริการทั่วถึงหรือไม่
เพราะถ้าขีดความสามารถที่จะรอรับของคุณนั้นเต็มที่แล้ว การมีลูกค้าเพิ่มจะมีแต่ผลเสีย คล้ายกับร้านอาหารที่มีจำนวนโต๊ะแค่ 5 โต๊ะ แต่มีลูกค้ายื่นรอเข้าคิวด้วยความเบื่อหน่ายอีก 12 คิว
สรุป
คุณอาจหาลูกค้าเพื่อมาใช้บริการได้มากขึ้น
แต่ถ้าคุณขาดการบริหารจัดการที่จะมารองรับลูกค้าที่เพิ่มเข้ามา ด้วยวิธีการที่เหมาะสม เงินทุนและแรงงานที่อุตส่าห์ลงทุนไปก็คงไร้ประโยชน์
ก่อนที่จะคาดหวังว่าจะเพิ่มยอดขาย เราจำเป็นจะต้องสแกนดูตัวเองว่ามีปัญญารองรับลูกค้าได้สูงสุดเท่าใด เราทำไหวไหม ลูกน้องไหวไหม
อย่ารีบเร่งเพิ่มยอด โดยลืมการบริหารจัดการงานหลังบ้านนะครับ
0 Comments