จะเลือก ลูกน้องที่ดี หรือ ลูกน้องที่เก่ง ใน ธุรกิจทันตกรรม

Posted on

จะเลือก ลูกน้องที่ดี หรือ ลูกน้องที่เก่ง ใน ธุรกิจทันตกรรม

 

Image result for good and bad man

 

ถ้าผมถามว่า จะเลือกลูกน้องที่เก่ง หรือ เป็นคนดี ?

ทุกคน คงได้คำตอบว่า

“บัดโถ่….. ก็เลือกคนที่มันทั้งเก่ง และดีเลยซิ ! ยากอะไร ! ”

ก็จริงเนอะ….

แต่… ในชีวิตจริง เรามักไม่ได้เจอคนที่สมบูรณ์ขนาดนั้น ถึงมีก็ใช่ว่าเราจะเจอ หรือ รับมาเพื่อเป็นพนักงานกับเรา

เอาจริงๆตัวเราเองยังมีข้อบกพร่องตั้งเยอะแยะ

ถ้าถามความเห็นส่วนตัวของผม ก่อนที่ผมจะมาศึกษาธุรกิจทันตกรรมอย่างจริงจังหลายปีก่อน ผมเคยให้น้ำหนัก “คนเก่ง” มากกว่า “คนดี”

 

สิ่งที่ทำให้ผมมีมุมมองแบบนั้น อาจจะเพราะผมเคยผ่านชีวิตการเป็นพนักงานบริษัทมา และคลุกคลีกับงานขาย ทำให้เห็นภาพของการชื่นชมคนเก่งบ่อยๆ

เช่น ทุกปลายปี จะมีการมอบรางวัลให้แก่พนักงานที่ทำยอดขายได้สูงที่สุด

มีการประกาศชื่นชมทีมขายที่ทำยอดขาดได้ทะลุเป้า

อาจกล่าวได้ว่า ในวงการขาย คนขายของเก่ง ทำยอดขายได้สูงจะได้รับการชื่นชม และได้ตบรางวัลอย่างงาม นักขายเก่งๆหนึ่งคนอาจทำยอดขายได้มากกว่านักขายฝีมือกลางๆ 5-6 คน และสมมุติว่าสุดยอดนักขายคนนั้นอาจจมีนิสัยแปลกๆ หรือ ทำอะไรไม่ถูกที่ถูกทาง ได้ยินบ่อยๆเหมือนกันว่าเจ้านายก็อาจจะ “หยวนๆ” ให้ เพราะก็ต้องพึ่งยอดขายของเขา

แต่คนนิสัยดี….กลับไม่ค่อยมีการชื่นชมหรือให้รางวัลเท่าไหร่


 

ถ้าพูดถึงในคลินิกทันตกรรม ผมก็มักจะได้ยินจากเพื่อนฝูงในวงการบ่อยๆว่า

“ช่วยแนะนำเคาเตอร์เก่งๆให้หน่อย”

ถ้าถามต่อว่า ไอ้คำว่า “เก่งๆ” ที่บอกมาหมายถึงคุณสมบัติข้อไหน ?

ก็คงไม่พ้น พูดจาดี ดูแลคนไข้เก่ง โทรนัดและทำคิวนัดหมายได้เป๊ะ และเชียร์ขายของได้ไม่ต่างจากพนักงานขาย

มันเป็นธรรมดาขององค์กรที่อยากพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ย่อมต้องการสร้างบริการที่ยอดเยี่ยมไว้บริการคนไข้ ยิ่งเคาเตอร์นี่รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นคนสำคัญ เพราะส่วนใหญ่ involve ในจุดบริการมากกว่าทุกตำแหน่ง

คำถามสำคัญของบทความนี้คือ

ถ้าคุณได้คนที่เก่ง (ขอตั้งชื่อว่า น้องเก่ง) ทำงานได้ตามบทบาทและหน้าที่ (Job Description) ขยันและสามารถสร้างยอดให้แก่องค์กรได้เป็นกอบเป็นกำ แต่นิสัยไม่ค่อยดี ทะเลาะกับคนอื่นบ่อย ชอบมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน คุณโอเคไหมที่จะมีลูกน้องแบบนี้

 

เมื่อเทียบกับคนที่ทำงาน “พอใช้ได้” (ขอตั้งชื่อว่า น้องกลาง) คือฝีมือและความสามารถ ไม่โดดเด่น หัวช้า เฉื่อยๆหน่อย แต่นิสัยดี ไม่มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน และเป็นที่รักของใครต่อใคร

 

คุณจะจ้าง น้องเก่ง หรือ น้องกลาง ครับ ??

 

ใครๆก็ชอบคนเก่งครับ เพราะคนเก่งเราได้ประโยชน์จากผลงานของเขามาก สมมุติว่าเคาเตอร์ลูกค้าสัมพันธ์ของเราเก่ง นอกจากจะช่วยปิดการขายได้ ยังสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าและเกิดการขายซ้ำ หรือ ปากต่อปาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการ แต่อีกมุมหนึ่ง นิสัยก็สำคัญ เพราะเราก็อยากได้คนนิสัยดี ไม่มีพิษมีภัย ถ้าคุณเลือกน้องกลาง ก็คงรู้สึกเสียดายน้องเก่ง เพราะคนเก่ง มันเก่งจริงๆ

 

ทั้งนี้ ถ้าจะต้องพิจารณาเลือก ผมมีแนวคิดสำคัญที่จะช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น โดยพิจารณาการ “อยู่ร่วม”

ธุรกิจทันตกรรมเราต้องใช้คนในการขับเคลื่อน “ทุกอย่าง”

เพราะฉะนั้น ความเป็น Teamwork ก็ย่อมมีความสำคัญ ไม่ต้องจากทีมฟุตบอลที่ต้องสนับสนุนช่วยกัน ทั้งหมอ ลูกค้าสัมพันธ์ ผู้ช่วยและแม่บ้าน แม้จะต่างบทบาทหน้าที่แต่ล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการบริการคนไข้ให้เกิดความประทับใจสูงสุด

การที่คนในองค์กรณ์จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและทำงานด้วยกันอย่างไหลลื่น คุณสมบัติของคนๆนั้นคือ จะต้องเป็นคนที่ “ทุกคนอยากอยู่ด้วย”

คนที่มีคุณสมบัติ “ทุกคนก็อยากอยู่ด้วย” มีลักษณะคือ คนที่เพื่อนฝูงรัก ใครๆมักจะคิดถึงเสมอ เป็นคนที่เราอยากชวนทานข้าว นิสัยน่ารัก อยากนั่งเม้าท์ อยากเดินเข้าไปแซว อยู่ด้วยแล้วมีความสุข และสบายใจ

อย่าลืมว่าคลินิกทันตกรรม คือ บ้านที่สองของพนักงาน เราใช้เวลาทำงานและใช้ชีวิตในคลินิกมากที่สุด ยิ่งกว่าการอยู่กับครอบครัวด้วยซ้ำ

ถ้าเราได้คนแบบน้องเก่งมาร่วมงาน เราก็จะได้แค่พนักงานที่เก่ง แต่ไม่ได้เป็นคนที่ใครๆอยากอยู่ด้วย บรรยากาศในองค์กรย่อมไม่สุขใสเพราะต้องทนกับนิสัยที่เราไม่ชอบ ถ้ามีคนแบบน้องเก่งหลายๆคนในที่ทำงาน คลินิกย่อมไม่ใช่ที่แห่งความสุข ตื่นมาทุกเช้าเราก็จะตื่นมาด้วยความอึดอัดใจที่จะมาทำงาน

และถ้าคนแบบน้องเก่งได้รับความไว้วางใจจากเจ้านาย (ซึ่งแน่นอน เจ้านายก็ชอบคนทำงานเก่ง) น้องเก่งมีอำนาจ มีเส้นสาย นิสัยแย่ๆก็จะแรงขึ้นเพราะมีอำนาจ สุดท้ายคนอื่นๆในองค์กรก็ทนไม่ไหว ก็ลาออกและเปลี่ยนงานในที่สุด

ทุกครั้งที่ผมมีโอกาสคุยกับพนักงานในคลินิก สำหรับคนที่มีประวัติย้ายที่ทำงาน ผมพบว่าเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้ช่วยทันตแพทย์ย้ายคลินิกคือ  “เกลียดนิสัยเพื่อนร่วมงาน”

(ส่วนเจ้าของคลินิกก็มักจะเข้าใจผิดว่าคนมันออกเพราะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ)

คลินิกทันตกรรมอาจจะชอบคนเก่ง ทำงานดี แต่พนักงานในคลินิกชอบคนนิสัยดี

ทำงานไม่เก่ง ถ้ามี Temwork และมีใจแก่กัน มันยังทำงานไปด้วยกันได้ ก็ช่วยๆกันไป แต่ถ้านิสัยไม่ดีมันไม่มีตัวช่วย

แม้คนสไตล์น้องกลางจะทำงานได้ไม่เก่งนัก แต่ในระยะยาว ถ้าคลินิกหมั่นอบรมฝึกฝน และเลือกใช้เขาให้เหมาะสมกับศักยภาพ เขาก็จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสามารถยังเป็นสิ่งที่ส่งเสริมง่ายกว่านิสัย

 

ส่วนถ้าใครยังฝืนรับคนสไตล์น้องเก่งมาร่วมงาน และหวังว่าอนาคตเขาจะนิสัยดีขึ้น หรือ คุณหมอจะพยายามดัดนิสัยเขา ผมอยากให้คิดใหม่ เพราะมันไม่ง่าย

1.เจ้าตัวเขามีจริตที่จะปรับเปลี่ยนนิสัยหรือเปล่า ?

2.คุณมีความสามารถ หรือ ศักยภาพพอที่จะโค้ชชิ่งคนจนเขาเปลี่ยนนิสัยและบุลคลิกได้จริงหรือ

เพราะอย่าลืมนะครับ แม้แต่นิสัยตัวเราเองที่ขี้เกียจเอย ไม่ดีเอย เรายังไม่มีปัญญบังคับตัวเราเองเลยนะครับ

 

  • Share

0 Comments

Leave a comment

Your email address will not be published.