ยุคนี้สิ่งต่างๆล้วนเร็วขึ้น จนบางทีผมตามไม่ทัน (ยอมรับว่าเริ่มแก่) เทคนิคการจะตามโลกให้ทันอย่างหนึ่งของผมคือการรู้จักมีเพื่อนต่างวัย
ปล. ไม่ใช่กิ๊ก หรือ เมียลับ นะครับ อิอิ
เด็กรุ่นใหม่ หรือ หมอฟันรุ่นใหม่ๆ กลุ่มที่ผมจะกล่าวถึง ถ้าพิจารณาตามอายุราว 20-30 ปี
ตามเศรษฐศาสตร์จะจัดอยู่ในกลุ่ม Gen Y
Gen Y (โตมาในช่วงปี 1981-1995) จะเป็นประชากรที่โตมาในรุ่นที่อินเตอร์เน็ตได้พัฒนามาแลว้ระดับหนึ่ง เครื่องใช้ไฟฟ้าและดิจิตัลก็ล้วนเป็นของที่โตมาพร้อมๆกับรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น Tablet กับ Smartphone
เขาจะคุ้นเคยกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และ Application สารพัด ไม่ว่าจะเป็น Microsoft office และ Adobe ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Photoshop แม้แต่ illustrator การทำงานต่างๆบนคอมล้วนเป็นเรื่องธรรมดาๆเพราะมีโอกาสเรียนและใช้งานตั้งแต่เรียนมัธยม แตกต่างจากกลุ่ม Baby Boomer และ Gen X ที่ต้องมาฝึกใช้และเรียนรู้อย่างยากลำบาก เพราะเพิ่งมาทำความรู้จักกับมันตอนมีอายุแล้ว (แก่)
กลุ่มนี้ ภาษอังกฤษถือว่าดีมากๆ อาจจะด้วยโรงเรียนยุคนี้มี English program และได้โรงเรียนสอนพิฌศษ หรือ ติวเตอร์มีมากมาย บางครอบครัวส่งลูกไปฝึกภาษาช่วง Summer ที่ต่างประเทศ สำเนียงและการใช้ภาษาถือว่าดีกว่า generation ก่อนๆมาก
การเรียนหนังสือของรุ่นนี้มีเพื่อนร่วมรุ่นชื่อ Google เขาเปิดใช้อย่างคล่องแคล้ว
เคยอ่านเจอ (จำไม่ได้ว่าจากไหน เป็นบทความโผล่มาในเฟสบุ้ค)เด็กนักเรียนคนหนึ่งที่ต่างประเทศ เกิดแข็งข้อ ปฎิเสธไปและเรียนในโรงเรียน เพราะบอกว่าเขาสามารถหาสิ่งที่อาจารย์สอนได้ใน Google ทุกอย่าง รู้เรื่องและละเอียดครูสอนอีกต่างหาก (ขนาดนั้น) เขาจึงปฎิเสธการที่ต้องเสียเวลาเดินทางไปเรียนทั้งวันเพื่อเรียนอะไรที่สอนห่วยกว่า Google ……. กลายเป็นว่าอาจารย์ยุคนี้มีคู่แข่งคือ Google ซะงั้น (ปล. เคสนี้เขาไม่ได้สรุปว่า Googleเก่ง หรือ ครูสอนไม่รู้เรื่องเอง)
ถ้ามี Smartphone ในมือ สิ่งที่ไม่รู้จะสามารถรู้ (อย่างละเอียด) ได้ภายในไม่กี่วินาที ไม่มียุคไหนที่การหาข้อมูลจะรวดเร็วและง่ายเท่านี้มาก่อน
ในแง่บุคลิกภาพ เนื่องจาก Gen Y โตมาในยุคแห่งความเร็ว เขาจะทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว คล่องแคล้ว และสามารถคิด Solution ได้หลากหลาย สิ่งที่น่ารักของคนกลุ่มนี้คือเต็มไปด้วยความฝันและแรงบันดาลใจ ไม่ชอบอยู่ในกะลาหรือกรอบของความคิดที่คนรอบข้างยัดเยียดให้ พร้อมเปิดรับสิ่งแปลกใหม่ ชอบไปแตะขอบฟ้าและท่องเที่ยวทั่วโลก กล้าตั้งคำถามกับกฎเกณฑ์และธรรมเนียมโบราณประเภทเชื่อตามๆกันมา มีความมุ่งมั่น ชอบความสำเร็จและชอบการคิดสร้างสรรค์
ถ้าพิจารณาตามวัยของ Gen Y เทียบกับหมอฟันในประเทศเรา ณ เวลานี้ ( ปี 2016) จะเป็นกลุ่มหมอฟันที่จบการศึกษาจากมหาลัยมาไม่นานนักคือทำงานราว 5-10 ปี หลายคนกำลังเรียนต่อ และหลายคนกำลังเตรียมตัวจะมีคลินิก
จากที่ผมพบเห็นคน Gen Y เปิดคลินิกนั้น จะพบจุดเด่นๆมากมาย
- คลินิกดูฉีกแนวจากคลินิกยุคเก่าๆค่อยข้างมาก บางคลินิกดูแทบไม่ออกเลยว่าทำฟันหรือร้านกาแฟ ซึ่งล้อไปกับความต้องการและ Trends ของคนรุ่นใหม่
- มีการนำตัวการ์ตูน mascot หรือสัญลักษณ์ มานำเสนอ และหลายคนทำเองด้วย เพราะมีทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์
- Social Media Tools ต่างๆ จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Facebook instragram youtube Website Google LINE ฯลฯ ชนิดทำเองไม่ต้องจ้างใคร
- ในเชิงความสามารถ จะมีโอกาสเรียนต่อและเรียนคอร์สอบรมต่างๆ (ซึ่งทุกวันนี้เยอะมาก) ทั้งรากฟันเทียม จัดฟัน และความสวยความงาม โดยเฉพาะคนที่ขยันๆเข้าคอร์สต่างๆ จะทำฟันเป็นแบบรอบด้านเลยทีเดียว
- ในเชิงของบุคลิก จะกล้าได้กล้าเสีย กล้าลงทุน ชอบใส่เต็มแม๊ก ไม่ค่อยชอบ สไตล์ค่อยเป็นค่อยไปแบบช้าๆได้พร้าเล่มงาม
แต่ทั้งนี้ Gen Y ก็มีจุดที่อาจจะต้องระวังในการเริ่มดำเนินคลินิกทันตกรรมด้วยเช่นกัน
- ความกระตือรือล้นที่จะออกแบบคลินิกในฝัน ต้องพิจารณาดีๆว่าตอบโจทย์คนไข้หรือกลุ่มเป้าหมายแค่ไหน ? สไตล์ที่หมอเจ้าของชอบนั้นอาจจะไม่เหมาะหรือไม่ใช่สไตล์ที่ลูกค้าชอบ ดังคำว่าธุรกิจควรจะต้อง Customer Focus ไม่ใช่ Business owner focus ความฝันและความต้องการของลูกค้าจะต้องมาก่อนความฝันของเจ้าของหรือตัวหมอฟันเอง
- Social Media Tools เป็นเครื่องมือทางการตลาด แต่สุดท้ายธุรกิจที่ยั่งยืนและมีลูกค้าที่ Royalty จะต้องเน้นการสร้าง Value ให้กับธุรกิจ
- งานทางด้านทันตกรรมเป็นหัตถการ บางอย่างไม่มีทางลัด จึงจำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ การทำฟันให้เก่งจึงต้องใช้เวลา ทั้งนี้ถ้าตราบใดที่ยังคงทำอย่างต่อเนื่อง และฝึกฝนเรียนรู้อย่างต่อเนื่องก็ย่อมจะเก่งในที่สุด
- การบริหารคลินิกทันตกรรม คุณหมอเจ้าของธุรกิจหรือ CEO จะต้องมี Leadership หรือความเป็นผู้นำที่ค่อนข้างสูง People skill ต้องเจ๋งระดับหนึ่ง อย่าลืมว่าคลินิกทันตกรรมเป็นธุรกิจบริการ และการบริการจะเกิดขึ้นจากคนเท่านั้น การดูแล สอนงานและพัฒนาคนในองค์กรจึงเป็น key success ที่สำคัญ ยกตัวอย่างของปัญหาที่เห็น เช่น คุณหมอยังอายุไม่เยอะ แต่ลูกน้องในคลินิกล้วนอายุมากกว่าทั้งผู้ช่วยทันตแพทย์และเวชระเบียน (เก๋ากว่า) อาจจะปกครองหรือบริหารลูกน้องลำบากหน่อย (หมอที่ใช้ทุน รพช แล้วจ๊ะเอ๋ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายทันทีจะเข้าใจอย่างดี)
โดยรวม ส่วนตัวผมว่า Gen Y มีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำคลินิกทันตกรรมที่สูงมากเพราะอายุยังน้อย ไฟแรงและเรียนรู้เร็ว
ถ้าเขาสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองในจุดต่างๆ ย่อมจะประสบความสำเร็จในการเปิดคลินิกทันตกรรมและวิชาชีพแน่นอน
การเปิดคลินิกทันตกรรมของ Gen Y จึงน่าจับตามอง ดังคำกล่าวว่ายุคนี้ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่เป็นปลาเร็วกินปลาช้า
0 Comments