ข้อคิดก่อนจะชวนเพื่อนหุ้นกันเปิด คลินิกทันตกรรม

Posted on

1.ถ้าไม่ชอบทำงานเป็นทีม อย่าคิดที่จะมีหุ้นส่วน

คนเราไม่เหมือนกัน บางคนมีความสุขเวลาทำงานร่วมกับคนหมู่มาก ชอบพบปะผู้คน ชอบทำงานกับคนเยอะๆ

แต่บางคน ชอบทำงานกับคนน้อยๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย คนยิ่งเยอะ ยิ่งไม่ชอบ และอึดอัดเวลาทำงานร่วมกับผู้อื่น

เราต้องรู้สไตล์ตัวตนของเรา ว่าเราเป้นคนยังไง โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนกลุ่มที่เรียกว่า Perfectionist คุณจะหุ้นกับคนอื่นยากถ้าไม่สามารถปล่อยวาง

2.เลือกคนที่จะมาหุ้นให้ละเอียดราวกับเลือกคู่ครอง

การหุ้นกัน ไม่ใช่เพียงแค่หาคนที่จะมาร่วมแบ่งผลประโยชน์

แต่ต้องนึกถึงวันที่แย่ๆด้วย เช่น ขาดทุน กิจการมีปัญหา ต้องหาคนมาช่วยแก้ไข

ในวันที่ทุกอย่างมันดี มันก็ดีอยู่หรอก แต่ในวันที่มันมรสุมรุมเร้า คุณค่าของหุ้นส่วนจะฉายมาเป็นพิเศษ คือ มาช่วยนำพาให้คลินิกรอดพ้นหรือไม่ หรือทิ้งไปในวันที่เราต้อการคน

ผมจึงคิดว่า มันก็ไม่ต่างจากการมีคู่ครอง ที่ต้องจับมือรักกันและพากันไปให้ตลอดรอดฝั่ง

3.ถ้าคิดดูแล้วพบว่า จริงๆเราไม่จำเป็นต้องมีหุ้นก็ได้…ก็อย่าคิดที่จะมี

หุ้นกันเพื่ออะไร ??

เพราะสนุกดี ?

เพราะต้องการแรงงาน ?

เพราะต้องการความสามารถของเขา ?

ต้องการเงินทุน ?

หรือแค่เพราะรัก อยากให้เขามีรายได้ ?

หรือ เพราะอยากให้มิตรภาพเรามันเพิ่มพูนจากการเป็นหุ้นส่วน

อันนี้สำคัญ เราต้องเอาให้ชัด ว่าประโยชน์ หรือ ความจำเป็นที่เราจะต้องหุ้นมันมีมากน้อยเพียงใด และถ้าพิจารณาแล้วมันไม่จำเป็น ก็ไม่ควรหาเรื่องหุ้นให้ปวดหัว

4.อย่าคิดว่าเอกสาร หรือ สัญญาทางกฎหมายจะสามารถเอามาช่วยแก้ปัญหาระหว่างหุ้นส่วนได้

ถ้าหุ้นส่วนทะเลาะกัน การเขียนสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างเหมือนเดิม ก็คนมันไม่อยากหุ้นแล้ว ผิดใจกันไปแล้ว ทะเลาะกันไปแล้ว จะเขียนอะไรไว้แล้วไงละ ??

พวกเอกสารต่างๆ มีไว้เพื่อ “กันลืม” ในสิ่งที่เคยตกลงร่วมกันเท่านั้น สมมุติว่าทะเลาะกันแล้วเอากฎหมายมาสู้กัน ก็ไม่ได้ทำให้สภาพการเป็นหุ้นสวนมันจะดีขึ้น นะ

และเอามาใช้ “สู้” ในวันที่หุ้นส่วนจะแตกหัก และเลิกรากัน

5.ถ้าคิดว่ารู้จักเพื่อนคนนี้ทะลุปรุโปร่ง จะพบว่า พอหุ้นกันแล้ว จะรู้จักยิ่งกว่านั้น เพราะสิ่งที่เราไม่เคยเห็นจากเขาจะปรากฎออกมา

คนส่วนใหญ่จะรู้จักเพื่อน ในมุมที่เรามีความสัมพันธ์แบบเพื่อน

แต่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ในฐานะ “คนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน”

หรือ ต้อง “รับผิดชอบ” ร่วมกัน

เพื่อนเราที่ว่าดี อาจจะรับผิดชอบงานได้ไม่ดี

เพื่อนที่ว่าสนิท อาจไม่บอกความจริงให้เราทราบทุกเรื่อง และปกปิดซ่อนเร้น

เพื่อนที่ว่าตายแทนได้ ในวันที่มีปัญหาเขาพร้อมที่จะยื่นมือมาช่วยราวกับเป็นปัญหาของเขาเองหรือไม่

ทุกคนที่เคยหุ้นกับเพื่อน ล้วนบอกเสมอว่าทำให้เห็น “ธาตุแท้” ของเพื่อนชัดๆ ก็วันนี้

 

สุดท้าย

ผมไม่ได้ห้าม หรือ อคติเรื่องการมีหุ้นส่วน

แต่วันนี้คุณเข้าใจ และเตรียมพร้อมการมีหุ้นส่วนแล้วเพียงใด ??

 

  • Share

0 Comments

Leave a comment

Your email address will not be published.