ส่วนตัวผมจะมีโอกาสได้รับรู้ความเป็นไปของเพื่อนๆพี่ๆ และน้องๆหมอฟันอยู่เรื่อยๆ เพราะหลายๆท่านก็มาขอคำแนะนำ ผมเองก็ถือโอกาสได้เรียนรู้ไปด้วย

 

ผมอยากจะเล่ากรณีศึกษาอันหนึ่ง ซึ่งผมถือว่าเป็นรูปแบบที่คลาสสิคมากๆ รูปแบบหนึ่ง

 

ทำไม ผมจึงใช้คำว่า รูปแบบ คลาสสิค  ?

 

เพราะมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แบบทำนายล่วงหน้าได้

 

ผมทำนายเรื่องนี้ได้ราว เชอร์ล็อคโฮล์ม เลยทีเดียว (ขอโม้นิดนึง) มาอ่านเรื่องราวกันนะครับ

 

…………………………

หมอ M ซื้อวัสดุทันตกรรม (A)มาล๊อตใหญ่ แต่ใช้วัสดุไปสักพักเกิดไม่ชอบ ก็เลยส่งคืนบริษัท (บริษัทมีนโยบายรับคืนสินค้าถ้าไม่พึงพอใจ)

แต่ด้วยอะไรไม่รู้ เขาดันส่งของคืนผิด คือแทนที่จะส่ง A กลับไป เขาดันจำผิดและส่ง B ไปแทน บริษัทก็งงว่าหมอส่งอะไรมา(วะ) แต่ก็เคลียร์กันจบไป

เขาเล่าให้ผมฟัง ว่าเขายุ่งมาก ทำคนไข้ 6 วันต่อสัปดาห์ จนบางทีสับสนว่าซื้ออะไรมาจากบริษัทไหน ทำให้ส่งคืนผิด

 

ผมฟังเสร็จปั๊บ ผมทำนายปัญหาอย่างหนึ่งของเขา

 

“เราว่า….นายควรจะเช็คเคาเตอร์นายหน่อยนะ”

 

“ทำไม ?” หมอ M สงสัย

 

“เรามั่นใจว่า เคาเตอร์นาย กำลังโกงเงินคลินิกอยู่ และโกงมานานแล้วด้วย”

 

“เอ้ย นายรู้ได้ยังไง”

 

“ก็รู้จากการที่นายส่งวัสดุกลับบริษัทผิดไงละ”

 

ผมกำชับแบบ Serious ว่านายต้องกลับไปแอบเช็คเคาเตอร์ เขาก็สัญญาว่าจะทำ

 

อีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง เขามาเล่าให้ผมฟังว่า เขาจับได้ว่าเคาเตอร์โกงเงินไปหมื่นกว่าบาท กำลังดำเนินคดีเพื่อทวงคืนอยู่

………………………

ทำไมผมถึงกล้าทำนาย  และดันแม่นเสียด้วย?

 

หลังจากที่ฟังเรื่องการส่งของคืนผิดของเขา ผมจึงไล่เรียงข้อสงสัยเป็นทอดๆ

“ทำไมนายถึงส่งผิด ทั้งที่ A และ B มันแตกต่างกันนะ”  ผมถาม

“กูซื้อมานานแล้ว ก็เลยสับสนว่าซื้อจากใคร”

“ถามหน่อย”

“ว่า ?”

“นายเคยเช็คสต๊อกวัสดุไหม ว่าใช้ไปเท่าไหร่ อะไรใกล้หมด อะไรใกล้ Expire ?”

“ทำงานก็หมดแล้ววันๆนึง บอกตรงๆว่าไม่มีเวลาเช็ค”

“แล้วนายก็ไม่เคยให้ลูกน้องเช็ค และทำรายการสต๊อกเลยละสิ แปลว่านายอาศัยว่าถ้าอะไรใกล้หมดก็ให้ลูกน้องวิ่งมารายงานแล้วสั่งเป็นครั้งๆไป”

“ใช่ ก็ประมานนั้น”

“แปลว่า แปรงสีฟัน และ ไหมขัดฟัน ที่นายขายๆออกไป นายก็ไม่ได้นับตอนซื้อเข้ามา ไม่ได้เช็คตอนขายออกไป แปลว่านายไม่รู้เลยว่าจำนวนที่ขายกับที่เหลือในคลังสัมพันธ์กันหรือไม่ ใช่ไหม”

“เออ…ไม่เคยเช็ค เลย”

“แบบนี้ลูกน้องก็แอบเอากลับบ้านสบาย หรือแม้แต่รับเงินจากบัญชีมาแต่ไม่ลงรายรับก็ได้”

“…….”

“อืมม เชื่อละว่าทำฟันเยอะจริง…. ขอถามต่อนะ ที่คลินิกใช้เวชระเบียนเป็นเขียนชาร์ต หรือ ดิจิตัล”

“เขียนชาร์ต”

“แล้วพอเลิกคลินิก นายก็ไม่เคยเอาทุกชาร์ตมาเรียง โดยไล่เรียงจากคนแรกถึงคนสุดท้าย นับเงิน เช็คยอดให้ละเอียดใช่ไหม เพราะนายก็เหนื่อยแล้ว บางวันอาจจะไม่นับเงินซะด้วยซ้ำ คือ กำเงินแล้วออกคลินิกมาเลย”

“เออ นายรู้ได้ไงวะเนี่ย”

“ก็ สังเกตุจากการบริหารจะการคลังของนายก็สะท้อนภาพรวมการทำงานของนายออกนะ ว่าค่อนข้างหละหลวม ไม่ละเอียดรอบคอบ และทำอะไรง่ายๆเกินไป ทำให้เกิดช่องโหว่เพียบ”

“แล้วรู้ได้ไงว่าลูกน้องกูโกงแน่ๆ”

“เจ้านายที่ไม่เช็คเงินให้ละเอียด ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกน้องโกง แค่แอบแกล้งทดสอบหยิบเงินออกไปวันละยี่สิบ สามสิบบาท ก็รู้แล้วว่านายไม่เคยเช็คเงินให้ละเอียด ไม่ได้ว่าลูกน้องนายเลวนะ แต่คนเราถ้ามีโอกาส มันก็อาจจะอยากขี้โกงหรือแอบขโมยได้”

“…..”

“และเรามั่นใจ ว่าคลินิกนายไม่ทำบัญชี อย่างมากก็ทำแค่รายรับรวมต่อวัน แต่ไม่ทำรายจ่าย”

“….”

“เราเข้าใจว่าคนไข้นายเยอะ รายได้นายดี ตอนนี้คลินิกเหมือนต้นมะม่วงที่ออกผลเต็มต้น นายเก็บเกินยังไงก็ไม่หมด นายก็เลยไม่สนใจจะรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยและฆ่าแมลง จริงๆก็ไม่แปลกนะ ทุกธุรกิจมักเป็นแบบนั้น ถ้า Cashflow ดีๆ เราก็มักจะทำตัวหละหลวมเพราะเงินในกระเป๋ามันเพิ่มทุกเดือนและเกินค่าใช้จ่าย”

“แต่ในระยะยาวมันจะเกิดอาการสะดุดขาตัวเอง ต้นไม้ที่เคยให้ผลเต็มต้นจนกินไม่หมดอาจจะออกผลน้อยลง เพราะขาดการใส่ปุ๋ย ขาดการดูแล ขาดการฆ่าแมลง แล้วสุดท้ายก็อาจจะโดนต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ แผ่กิ่งก้านสาขามาบังแดดเพราะเขาเติบโตได้ดีกว่า เร็วกว่า สุดท้าย ต้นมะม่วงก็จะเล็กลีบ ต้นมะม่วงมันไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวนะ มันมีคู่แข่งคืนต้นใหม่ๆรายรอบ”

“คลินิกที่กำลังดัง ปากต่อปาก คนไข้เยอะ อาจจะสะดุดได้ด้วยการไม่ลงรายละเอียดของการบริหารจัดการ ทุกวันนี้นายสูญเงินไปไม่รู้กี่แสนกับรอยรั่วที่นายปล่อยไว้ให้รั้ว  รู ที่ชื่อคอรับชั่น”

 

 

………………………

 

ผมดีใจที่เพื่อนผมคนนี้รับฟัง และสะดุดใจคิดแล้วนำไปขยายผล

เอาจริงๆผมไม่ชอบไปขุดคุ้ยเรื่องในคลินิก หรือ องค์กรของใครเท่าไหร่ มันคล้ายกับเราไปสืบเรื่องชาวบ้านแล้วมาแฉให้เจ้าตัวฟัง ถ้าไม่สนิทกันจริงและมั่นใจว่าเขารับคำแนะนำเราได้ ก็ลำบากใจที่จะไปพูดเรื่องพวกนี้เหมือนกัน

ถ้าไล่เรียงปัญหาผมมั่นใจว่าจะมีปัญหาเรื่องอื่นๆอีก

ถ้าเจ้านายไม่ละเอียด ลูกน้องก็จะพบช่องทางโกงเงิน เอาจริงๆไม่ต้องเป็น เชอร์ล็อคโฮล์ม ก็ทำนายได้นะครับ ๕๕ มันค่อนข้างตรงไปตรงมา

ก็เอามาแชร์กันนะครับ ว่า ยิ่งคลินิกยอดยิ่งเยอะ คนไข้ยิ่งเยอะ คนส่วนใหญ่จะลงเวรเพิ่มเพื่อทำคนไข้ แต่คำแนะนำของผมคือเราอาจจะต้องทำในสิ่งที่กลับกัน คือเรายิ่งต้องเพิ่มเวลาไปให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการมากกว่าการลงมือรักษาคนไข้

 

เพราะการรักษาคนไข้ เรายังหามือปืนมาทำแทนเราได้

 

แต่การบริหาร หาคนมาทำแทนยากนะครับ