อะไรคือ Learning curve ?

Posted on

จะเรียกให้เข้าใจง่าย คือการสะสมประสบการณ์การทำงาน โดยเฉพาะงานที่อาศัยความถนัดและใช้ฝีมือ เช่น การผ่าฟันคุด

ในเคสแรกๆที่เราผ่า ถ้ายังจำได้ มันยากเสียเหลือเกิน แค่เอา blade เป็นเหงือกก็ยากแล้ว distal ซี่ 7 … ลึกก็ลึก ไหนแก้มจะคอยเบียด ไหนลิ้นจะมายุ่งซุกซน มองยาก กรอยาก กว่าจะเอาออก …. ก็ต้องให้อาจารย์มาช่วย

เสร็จเคสทุกคนส่ายหน้า … จบไปจะไหวไหม ไม่มีอาจารย์คอยช่วยเคสยากๆอีกแล้ว…

 

แต่ในความเป็นจริง พอทุกคนจบเป็นหมอฟันเต็มตัว เมื่อได้ทำซ้ำๆ ทั้งเคสง่ายเคสยาก ก็จะเก่งขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยอัตโนมัติ

1-10 เคสแรก…เริ่มเป็น เริ่มเลือกเคสเก่งขึ้น

20-40 เคส เริ่มคล่อง เริ่มเร็ว

ครบ 100 เคสนี้สบายละ ช่วยหมอมือใหม่แก้งานสบายๆ

 

Learning curve จะขึ้นอยู่กับจำนวนเคสที่ทำ เพราะฉะนั้นหมอจบใหม่คุณไม่ต้องอายที่ยังทำฟันไม่เก่ง เพราะจำนวนเคสที่ทำยังน้อยมากๆ

ส่วนหลักของการพัฒนา Learning curve คือความถี่ในการทำงาน … แต่ก็มีปัจจัยอื่นที่เป็นส่วนเสริม

ถ้าร่วมกับการได้เข้าอบรม เรียนต่อ หรืออ่านหนังสือควบคู่ อาจไม่ถึง 100 เคสก็เก่งได้ การหาความรู้ควบคู่จะลด Learning curve ได

 

Learning curve แต่ละคนจึงไม่เท่ากัน อีกปัจจัยคือ พรสวรรค์

หมอบางคนวาดรูปเก่ง มีฝีมือทางศิลป์ พวกนี้จะอุดฟันสวยกว่าเพื่อนร่วมรุ่น ทั้งๆที่มีประสบการณ์การทำเคสที่เท่ากัน Learning curve ของคนกลุ่มนี้จะเร็วกว่าคนปกติเฉลี่ย 10% ( อ้างอิงจากหนังสือชื่อ Outlier) เพราะฉะนั้น เวลาเราเห็นใครที่ทำฟันเก่ง ถ้าเรามีโอกาสทราบ background ของเขา เราจะเห็นเส้นทางของ learning curve ที่โชกโชน

 

หมอรากเทียมบางท่านเพิ่งเรียนจบวิชารากเทียม …. แต่ฝังเก่งกว่าหมอรากเทียมที่อายุมากๆ … เพราะตอนที่หมอคนนั้นเรียนตลอดเวลา 3 ปี เขาฝังรากเทียมไปราว 200 ตัว ร่วมกับการทำวิจัยและ seminar ทุกสัปดาห์ แต่หมออีกท่าน ทำรากเทียมมา 5 ปี นานๆทีหาความรู้เพิ่ม และเพิ่งจะฝังไปไม่ถึง 100 ตัว

เพราะฉะนั้น learning curve มันแซงกันได้เสมอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุทำงานหรือวุฒิ แต่วัดกันที่ชั่วโมงบินที่สะสมเป็นหลัก ความเก่งของนักบินจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับคะแนนสอบ หรือ ทักษะ แต่เป็นชั่วโมงบินที่เขาบินมาชั่วชีวิตของการเป็นนักบิน เป็นการสะสมประสบการณ์ที่ไม่สามารถใช้วิธีลัดได้เลย

 

ทันตกรรมเป็นงานหัตถการ ความถี่จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หมอแต่ละคนเก่งและถนัด ควบคู่กับการหาความรู้เพิ่ม เพราะฉะนั้นน้องๆหมอฟันเพิ่งจบไม่ต้องกังวลเรื่องฝีมือนะครับ ถ้าขยันทำงานสักวันยังไงก็เก่ง

 

  • Share

0 Comments

Leave a comment

Your email address will not be published.