หมอฟันจบใหม่ ใสกิ๊ก เปิดคลินิกเลย ไหวไหม ?

Posted on

ถ้าเพิ่งจบหมอฟัน แล้วเปิดคลินิกทันตกรรมเลยได้ไหม ?

เป็นอีกคำถามยอดฮิตของน้องๆที่เพิ่งจบ-กำลังจบ โดยเฉพาะท่านที่ไฟแรงลุกโชน

เอาจริงๆ ไม่มีกฎหมายหรือระเบียบใดกำหนดไว้ว่าหมอฟันจบใหม่จะเปิดคลินิกไม่ได้นะครับ เมื่อใดก็ตามที่สภาวิชาชีพฯ อนุมัติการเป็นหมอฟันของเรา เราก็ย่อมเป็นหมอฟันที่มีสิทธิ์ต่างๆตามกรอบของกฎหมายและระเบียบต่างๆกำหนดไว้

แต่แบบที่ยังไม่จบ ป.ตรี แต่รีบไปหางานทำ อันนี้ไม่ควรนะ เดี๋ยวจะโดนจับได้ว่าเป็นหมอเถื่อนเหมือนหลายๆข่าวที่เราได้ยินกันเรื่อยๆ

กลับมาที่คำตอบของคำถาม

“เปิดได้ครับ”

 

แต่ทัง้นี้ เรา “พร้อม” แค่ไหน ??

 

ถ้าจะเปิดทั้งที ก็เปิดให้ดีไปเลยนะครับ ซึ่งตัวเราเองก็ต้องมีความพร้อมรอบด้าน แล้วความพร้อมที่พูดถึงมันได้แก่อะไรบ้างละ

 

ถ้าเรียงลำดับจากสำคัญมากไปน้อย ก็ได้แก่

1.เงินทุน

2.วิสัยทัศน์

3.ภาวะผู้นำ

4.ความเข้าใจในธุรกิจบริการทางด้านการแพทย์

5.ฝีมือทางทันตกรรม


 

1.เงินทุน

 

ผมเคยมองว่าเงินน่าจะเป็นอะไรที่ง่ายที่สุด เพราะเรามีตัวช่วยได้เยอะในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติ หรือธนาคาร จริงอยู่เงินอาจจะจัดหาได้ง่าย แต่ถ้าปราศจากเงินทุนแล้วจะไม่สามารถทำธุรกิจใดๆได้เลย

ยุคนี้ธนาคารอาจจะปล่อยกู้ให้หมอฟันง่าย แต่ถ้าไม่วางแผนการเงินดีๆ และดำเนินธุรกิจได้ไม่ตามเป้า รับรองเปิดคลินิกแบบกินไม่ได้นอนไม่หลับแน่นอน

หลายท่านมีแผนจะซื้อตึกเพื่อทำธุรกิจ ท่านต้องพิจารณาดีๆว่ามันคุ้มหรือไม่ ? ที่จะต้องผ่อนเดือนละหลายๆหมื่นจนถึงแสนเพียงเพื่อมีสถานที่ทำธุรกิจ

การเช่าที่แม้จะมีความเสี่ยงในการไม่ได้ต่อสัญญา แต่ถ้าต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายที่เกินตัวสุดท้ายอาจจะไม่ได้เห็นเงินสดตอนปลายเดือนเพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยแก่ธนาคารจนหมดและที่สำคัญ แม้จะหยุดทำธุรกิจด้วยสาเหตุใดก็ตาม เราก็จะยังคงมีภาระผูกพันธ์ในการต้องผ่อนต่อจนครบ (นอกจากโชคดีขายได้) ต่างจากการเช่าที่จะเลิกเช่าเมื่อใดก็ได้เพียงแต่อาจจะไม่ได้ครองกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์

ทั้งนี้ ถ้าเงินไม่ถึงจริงๆ ควรกลั้นใจไม่ลงทุนซื้อสินทรัพย์แพงๆ แต่ควรลงทุนให้เกิดกำไรแล้วค่อยลงทุนต่อยอดจะดีกว่า ชีวิตเราอาจจะไม่ได้จบที่การมีคลินิกเพียงแห่งเดียว คลินิกที่ สอง ที่สาม อาจจะดีและเลิศกว่าอันก่อนย่อมเป็นไปได้ครับ ในวันที่เรามีเงินหมุนเวียนเยอะและเริ่มมั่งคั่ง ถึงตอนนั้นจะซื้อที่ซื้อตึกย่อมเป็นเรื่องง่าย

 

2.วิสัยทัศน์

คือมุมมองว่าเราจะเป็นใคร และเป็นอะไรในธุรกิจนี้

ถ้าเปิดคลินิกแต่ปราศจากวิสัยทัศน์ มันเหมือนกับขับรถแต่ไม่รู้จะไปทางไหน ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีจุดหมาย

เช่น

จินตนาการ ถ้าตัวเราขึ้น taxi …คนขับถาม คุณจะไปไหน

เอออ ผมก็ไม่รู้ อะ…พี่ขับไปเรื่อยๆละกัน

ถ้ารถยังวิ่ง….เดาว่าไม่คนขับหรือคนนั่ง ต้องมีสักคนบ้าแน่ๆ

ทำธุรกิจมันต้องมีความชัดเจน เราจะเป็นใคร ทำอะไร ไปในทิศทางใด ผมจะไปอุดรธานี ให้ถึงศาลาว่าการให้ทันภายใน 5 โมงเย็น แบบนี้เป้าหมายชัด ชัดทั้งสถานที่และเวลา รับรองเดินทางไม่มีผิดพลาด

เอ๊ะตอนนี้มันบ่ายสอง ไปด้วย taxi ไม่ทันหรอก งี้เปลี่ยนเป็นเครื่องบิน จะมีสิทธิ์ทันกว่าแน่ๆ พอเห็นภาพไหมครับ ว่าถ้าเป้าหมายชัด วิธีการจะเป็นสิ่งที่ตามมาเอง

 

เพราะฉะนั้นใครเปิดคลินิกแต่วิสัยทัศน์ไม่ชัดเจน หรือเป้าหมายคลุมเครืองงๆ เช่น เปิดไปงั้นอะที่บ้านอยากให้เปิด

เบื่อเป็นมือปืน

รู้สึกมั่นคง

อยากมีรายได้มากกว่าเดิม

ขี้เกียจเป็นลูกน้องเขา

อยากเป็นอิสระ

สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้สึกของเรา ไม่ใช่วิสัยทัศน์ในเชิงธุรกิจ แม้หลายคนที่มีคลินิกอยู่แล้ว อาจจะเริ่มจากการไม่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนแต่มาเพิ่มเอาตอนหลังก็มีเยอะ หรือแม้แต่บางคนที่เปิดมาเป็นสิบๆปีก็ยังไปได้แถมรวยด้วยแม้ไม่มีวิสัยทัศน์ ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด

แต่ถ้ามีวิสัยทัศน์ชัดเจน เป้าหมายชัดเจน มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการทำธุรกิจ ถ้าขึ้น taxi ก็ถึงที่หมายเร็ว ไม่ขับวนเวียนให้หลงทางเสียเงินและเสียเวลา

เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากๆ ต้องระวังอย่าใช้เปลือง บางสิ่งที่เรียนรู้ เรารู้ทางลัดโดยไม่ต้องลองผิดลองถูกก็มี

 

3.ภาวะผู้นำ (Leadership)

ถ้าจะมีคลินิกทันตกรรม ก็ไม่พ้นที่เราจะต้องดำรงตำแหน่ง CEO หรือผู้นำองค์กรโดยปริยาย และย่อมต้องรับบทบาทปกครองลูกน้อง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ภาวะผู้นำ คือ การมีวุฒิภาวะทางความคิดและอารมณ์ที่สูง การทำตัวเป็นที่เคารพยกย่องน่านับถือ เป็นผู้นำ (นำไปสู่ความเจริญ ความสำเร็จ และชัยชนะ) มีอำนาจและบรามี แต่ไม่ใช่จากการหักเงินหรือทำโทษ เป็นบุคคลที่องค์กรเชิดชู รักและเคารพ ไม่ใช่กลัวและเกรงใจ

ตัวอย่างง่ายๆในการปกครอบคน คือตัวผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนในองค์กร

ถ้าไม่อยากให้ลูกน้องมาสาย ก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าเราก็รับผิดชอบอย่างเคร่งครัด มาตรงเวลาเลิกตรงเวลา

ถ้ามาสายประจำ ถือสิทธิ์ว่าตัวเองเป็นหมอหรือเจ้าของกิจการแล้วจะทำตัวอย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจ ก็อย่าหวังว่าลูกน้องจะเชื่อฟังและมาตรงเวลา เพราะถ้าตัวผู้นำไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้มีระเบียบวินัยได้และเคารพในกฎเกณฑ์เดียวกัน จะเอาพลังและความน่าเชื่อถือที่ไหนมาทำให้คนอื่นเปลี่ยนนิสัยหรือความประพฤติ ? ทั้งที่การเปลี่ยนตัวเองนั้นง่ายกว่าเปลี่ยนคนอื่น

Different ของคลินิกทันตกรรมนั้นที่ชัดเจนที่สุดคือผู้นำองค์กร ผู้นำที่มีแนวคิดและบุคลิกที่แตกต่างกันย่อมมีภาพลักษณ์ขององค์กรที่ต่างกันไป

การเป็นผู้นำที่ดีนั้นไม่ง่าย ต้องอาศัยการเรียนรู้และมีวินัยสูง และไม่ใช่ทุกคนจะทำหน้าที่ในบทบาทนี้ได้ดี

 

4.ความเข้าใจในธุรกิจบริการทางการแพทย์

เป็นคำที่กว้างมาก แต่สังเกตว่าผมใช้คำว่า ธุรกิจบริการทางการแพทย์

ไม่ใช่คำว่าธุรกิจเฉยๆ หรือแม้แต่คำว่าทันตกรรม และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทำฟัน

ข้อนี้ผมได้โพสในเพจนี้ไปค่อนข้างเยอะ เป็นส่วนเล็กส่วนน้อย เป็นท่อนๆ ถ้าเอามาเรียบเรียงอ่านคิดว่าคงมีเนื้อหาสาระระดับหนึ่ง ถ้าท่านไหนสนใจจะลองเปิดย้อนในโพสเก่าๆได้นะครับ

 

5.ฝีมือทางทันตกรรม

เหตุผลที่ผมจัดข้อนี้ให้อยู่ข้อสุดท้าย เพราะในการทำฟันหรือการทำหัตถการนั้น ตัว CEO หรือผู้บริหารอาจไม่จำเป็นต้องลงมือทำฟันก็ยังได้ เพราะจริงๆเราสามารถหาช่องทางที่จะจ้างมือเจ๋งๆมาทำงานในองค์กร หรือแม้แต่คุณวุฒิระดับอาจารย์หรือเมืองนอก

แต่สำหรับคลินิกทันตกรรมขนาดเล็ก ตัว CEO มักจะไม่ได้ทำแต่งานบริหาร แต่มักต้องมีเวรลงทำหัตถการด้วย เพราะฉะนั้นฝีไม้ลายมือจึงย่อมมีความสำคัญ

ทั้งนี้ มีวุฒิแต่ไม่มีฝีมือ สู้มีฝีมือแต่ไม่มีวุฒิยังดีกว่าเพราะงานหัตถการมันวัดผลที่ outcome

ถ้าใครวุฒิสูงแต่ฝีมือทำฟันไม่ได้เหนือกว่า GP มันก็ย่อมดูไม่สมราคา ดูไม่ค่อยมีคุณค่า หมอฟันเป็นงานฝีมือ ควรเหมือนขิง ยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดเด็ดดวง ไม่ใช่ยิ่งทำงานแต่ทำงานได้ห่วยลง ยิ่งเสื่อมยิ่งเน่า รอวันทิ้ง

ฝีมือ….แล้วแต่ครับว่าท่านจะลับตัวท่านให้แหลมคมยังไง เทคคอร์ส ปโท เรซิเด้น เมืองนอกหรือแม้แต่อ่านเอง หรือขยันๆเข้าประชุมที่มีจัดเยอะแยะมากมาย การลับฝีมือมันอยู่ที่เราจะใฝ่หา ตามแต่กำลังทรัพย์และโอกาสในชีวิต ทั้งนี้ ฝีมือ ยังนับไปถึงเรื่อง people skill ด้วย ทักษะการสื่อสาร จิตวิทยา ความเข้าใจในความเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นถ้าทำฟันเก่ง แต่มนุษยสัมพันธ์ห่วยแตกก็ไม่ไหว ถือว่ายังต้องปรับปรุงตัวเอง เราทำงานกับคนต้องคุยกับคน ต้องส่งมอบความสุข

ฉะนั้นน้องๆจบใหม่หลายๆท่าน ถ้าอยากจะมีคลินิก อย่างน้อยลองดู 5ข้อนี้เป็นพื้นฐานไว้ก็ดี ถ้ามีครบก็อุ่นใจกว่ารีบเปิดทั้งๆที่ยังไม่พร้อม ยินดีต้อนรับเพื่อนร่วมวิชาชีพจบใหม่ เร็วๆนี้ครับ

มีคำถามหรือข้อแลกเปลี่ยน ทุกท่านสามารถโพสได้เลยนะครับ ยินดีตอบทุกคำถาม

  • Share

0 Comments

Leave a comment

Your email address will not be published.