สำหรับธุรกิจคลินิกทันตกรรม ผมคิดว่าหลายท่านมักจะโฟกัสกันที่ยอดขาย หรือ รายรับ
คือ มักจะใช้รายรับต่อเดือนเป็นตัวชี้วัด ว่าคลินิกประสบความสำเร็จไหม เดือนนี้ปิดยอดที่กี่แสนกี่ล้าน
การใช้ยอดขายเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เห็นภาพได้ชัด วัดผลได้ เปรียบเทียบได้ เป็นชิ้นเป็นอัน คลินิกที่ยอดขาย 1 ล้านบาท อาจจะดูเหมือนประสบความสำเร็จมากกว่าคลินิกที่ยอดขาย 7 แสน แต่ทั้งนี้ มันยังมีตัวชี้วัดอื่นๆที่ต้องพิจารณาร่วมด้วยหลายอย่าง
1.กำไรแค่ไหน ?
คือถ้าคลินิกมียอด 1 ล้าน แต่รายจ่าย 9 แสน และเหลือกำไรแค่ 1 แสน (10%) ดูแล้วคงแพ้คลินิกที่ยอดขาย 6 แสนแต่กำไร 2 แสน (33%) ยอดขายเยอะแต่สัดส่วนกำไรน้อย ผมว่าสู้มียอดน้อยๆแต่สัดส่วนกำไรเยอะยังจะดีกว่า
2.ยอดสูง อย่างต่อเนื่องหรือเปล่า
ยอดสูง แต่ขึ้นๆลงๆ ก็คงไม่มั่นคง ถ้าจะดีที่สุด ควรจะสูงและมีแนวโน้มสูงเรื่อยๆ หรือ สูงถึงจุดที่ไม่สามารถเพิ่มได้แล้ว
มันก็ขึ้นอยู่กับกำลังการผลิต หรือ การบริการ อย่างลืมว่าธุรกิจบริการมันจะมี limitation ในแง่ของกำลังคน เวลา และการบริการ สุดท้ายถึงจุดหนึ่งแล้วจะเพิ่มมากๆไม่ได้
3.ยอดสูง แล้วกิจการมั่นคงไหม
ความมั่นคงของธุรกิจทันตกรรมคือ การที่มีพนักงานที่มีศักยภาพและภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ถ้าพนักงานเข้าๆออกๆ หมอเข้าๆออกๆ ก็ถือว่าไม่มั่นคง
ความมั่นคงมองได้หลายมิติ ตัวผู้บริหารนำเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่ายไหม บริหารต้นทุนได้หรือเปล่า รวมถึงทัศนคติของผู้บริหารด้วย
4.กิจการมีความโดดเด่นไหม (Remarkable)
หลายคลินิกไปเปิดในทะเลสีฟ้า (Blue ocean) เช่น ในย่านที่ไม่มีคู่แข่ง หรือคู่แข่งสู้ไม่ได้ ทำให้ในระยะต้นสามารถคืนทุนได้เร็ว พร้อมกับทำกำไรได้เยอะในเวลาต่อมา โดยที่ตัวคลินิกเองไม่มีความจำเป็นต้องมีความโดดเด่นใดๆ
การไม่มีคู่แข่งเป็นลาภอันประเสริฐ จะว่าแบบนั้นก็ได้
ด้วยสถานการณ์แบบนี้ โดยมากคลินิกมักจะมียอดขายที่สูงพอตัว แต่จะ Enjoy profit ได้ไม่นาน เพราะสุดท้ายก็ย่อมจะมีคนรู้ว่าบ่อทองมันอยู่ที่นี่
แล้ววันที่คู่แข่งมาเปิดตลาดสู้ ก็ต้องมาถึง
ส่วนมาก คู่แข่งที่มาทีหลังมักจะมาด้วยภาพลักษณ์และการตลาดที่โดดเด่น (เพราะเขาอยากเอาชนะเรา) ซึ่งถ้าเราไม่มีความเข้มแข็งในเชิงธุรกิจและการตลาดที่ดีพอ รายรับที่เคยกินนิ่มก็อาจจะลดลงอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะคลินิกที่ไม่มี Different ไม่มีจุดแข็ง และไม่มีความโดดเด่นใดๆ
0 Comments